วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า เป็นสถาบันผลิตแพทย์ทหารแห่งเดียวในประเทศไทย ถูกก่อตั้งเป็นสถาบันแพทยศาสตร์ลำดับที่ 7 ของประเทศไทย ตัววิทยาลัยจะดำเนินงานร่วมกับโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรมแพทย์ทหารบก และดำรงสถานะสถาบันสมทบของมหาวิทยาลัยมหิดล
วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า มีชื่อย่อคือ วพม. ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อ 16 มิถุนายน 2518 จากพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เหตุเพราะความจำเป็นที่ทางราชการทหารจะต้องจัดตั้งโรงเรียนแพทย์ขึ้นเอง เพื่อที่จะได้ผลิตบัณฑิตแพทย์ให้ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ เพียบพร้อมด้วยคุณธรรม จริยธรรม ให้แก่กองทัพละประเทศชาติ โดยผลผลิตของ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้านั้นได้ปฏิบัติหน้าที่และผลงานต่างๆ ไว้มากมายทั้งภายใน และภายนอกประเทศที่เป็นประโยชน์และนำมาซึ่งชื่อเสียงแก่ให้กองทัพและประเทศชาติมาจวบจนถึงปัจจุบัน
วิสัยทัศน์ พันธกิจ และคำขวัญ
- วิสัยทัศน์
- ” โรงเรียนแพทย์ชั้นนำในเอเชียที่เชี่ยวชาญ ด้านเวชศาสตร์ทหาร “
- คำขวัญ
- ” วิชายอด วินัยเยี่ยม เปี่ยมคุณธรรม “
- พันธกิจ
- จัดการศึกษาเพื่อผลิตบัณฑิตแพทย์ที่มีคุณภาพระดับสากล ผลิตผลงานวิจัยระดับนานาชาติที่มีมาตรฐานสูง โดยเฉพาะด้านเวชศาสตร์ทหาร สร้างสรรค์บริการทางวิชาการที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย และแบบธรรมเนียมทหาร
ค่านิยมในการเป็นนักเรียนที่ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
ค่านิยมในการเป็นนักเรียนที่ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า คือ “สามัคคี มีวินัย ใส่ใจผู้เรียน ผลงานเป็นเลิศ” โดยจะมีความหมายดังนี้
- สามัคคี : มุ่งเน้นบุคคลากร
- มีวินัย : ภาวะผู้นำ ความซื่อสัตย์ ระบบเกียรติศักดิ์ จรรยาบรรณวิชาชีพ
- ใส่ใจผู้เรียน : มุ่งเน้นผู้เรียน ใช้ข้อมูลในการทำงาน ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ มุ่งเน้นอนาคต สร้างสรรค์นวัตกรรม และความคล่องตัว
- ผลงานเป็นเลิศ : มุ่งเน้นผลลัพธ์
ตราสัญญาลักษณ์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
ตราสัญญาลักษณ์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า จะมีรูปเป็น พระมหาพิชัยมงกุฎสีทอง ถือเป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระมหากษัตริย์ มีรัศมี 17 แฉกล้อมแสดงถึงความรุ่งโรจน์กึ่งกลางพระมหาพิชัยมงกุฎมีเครื่องหมายอุณาโลม ซึ่งในแต่ละส่วนของตราสัญญาลักษณ์ ก็มีความหมายแตกต่างกันดังนี้
- พระมหาพิชัยมงกุฎพร้อมรัศมี หมายถึง ราชอิสริยาภรณ์ ราชาธิปไตย อันเป็นเครื่องประดับพระเศียร พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีสร้างในรัชสมัยรัชกาลที่ 1 ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงสวมในพิธีพระบรมราชาภิเษก และพระราชพิธีสำคัญ
- ลข ๖ ในวงกลม หมายถึง รัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์จักรี ผู้ทรงสร้างพระราชวังพญาไท ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้ง วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ปัจจุบัน (บางส่วน)
- รร ในวงกลม หมายถึง พระปรมาภิไธยย่อ รามรามาธิบดี ในพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
- พญานาค หมายถึง วิชาแพทย์ที่พระวิศวามิตร์เล่าไว้ในบ่อเกิดรามเกียรติ์ว่า เทวดา และอสูร ที่ต้องการเป็นอมตะจึงทำพิธีกวนเกษียรสมุทร โดยใช้เขามนทรคีรีเป็นไม้กวน นำพญาวาสุกรีเป็นเชือก เป็นผลให้เกิดประถมแพทย์ ธันวันตะรี ผู้ชำนาญในอายุรเวท
การเรียนการสอนวิชาแพทย์ในแต่ละชั้นปี วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
การเรียนการสอนวิชาแพทย์ของวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าในแต่ละชั้นปี แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้
- ปีที่ 1 ชั้นเตรียมแพทย์ จะได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำให้นิสิตเตรียมแพทย์ของวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าศึกษาที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยการศึกษาจะอยู่ในความรับผิดชอบตามกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- ปีที่ 2 – 3 ชั้นปรีคลินิก จะได้รับการจัดการเรียนการสอน ณ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า (เดิมการเรียนการสอนใช้สถานที่สถาบันพยาธิวิทยา กรมแพทย์ทหารบก ในบริเวณโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า) ต่อเป็นเวลา 2 ปี
- ปีที่ 4 – 6 ชั้นคลินิก จะใช้สถานที่ของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เป็นเวลา 3 ปี
วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ภาควิชา ชั้นปรีคลินิก และภาควิชา ชั้นคลินิก
- วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ภาควิชา ชั้นปรีคลินิก มีทั้งหมดดังต่อไปนี้
- ภาควิชากายวิภาคศาสตร์
- ภาควิชาชีวเคมี
- ภาควิชาสรีรวิทยา
- ภาควิชาเภสัชวิทยา
- ภาควิชาจุลชีววิทยา
- ภาควิชาพยาธิวิทยา
- ภาควิชาปรสิตวิทยา
- ภาควิชาเวชศาสตร์ทหารและชุมชน
- วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ภาควิชา ชั้นคลินิก มีทั้งหมดดังต่อไปนี้
- ภาควิชาอายุรศาสตร์
- ภาควิชาศัลยศาสตร์
- ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
- ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
- ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์
- ภาควิชาจิตเวชและประสาทวิทยา
- ภาควิชาวิสัญญีวิทยา
- ภาควิชารังสีวิทยา
- ภาควิชาจักษุวิทยา
- ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา
- ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน
- ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู
- ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว