1.วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า คือ
วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า คือ สถาบันผลิตแพทย์ทหารแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ถูกก่อตั้งเป็นสถาบันแพทยศาสตร์ลำดับที่ 7 ของประเทศ โดยจะดำเนินงานร่วมกับโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรมแพทย์ทหารบก และดำรงสถานะสถาบันสมทบของมหาวิทยาลัยมหิดล
2.ประวัติวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า (วพม.) ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 16 มิถุนายน 2518 ด้วยพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงมีพระกระแสพระบรมราชาโชวาทในคราวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงดนตรี ณ หอประชุมราชแพทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2516 เหตุเพราะความจำเป็นที่ทางราชการทหารจะต้องจัดตั้งโรงเรียนแพทย์ขึ้นเอง เพื่อที่จะได้ผลิตบัณฑิตแพทย์ที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ เพียบพร้อมด้วยคุณธรรม จริยธรรม ให้แก่กองทัพละประเทศชาติ ผลผลิตของ วพม.นั้น ได้ปฏิบัติหน้าที่และผลงานต่างๆ ไว้มากมายทั้งภายในและภายนอกประเทศที่เป็นประโยชน์และนำมาซึ่งชื่อเสียงแก่กองทัพและประเทศชาติ
3.วิสัยทัศน์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
” โรงเรียนแพทย์ชั้นนำในเอเชียที่เชี่ยวชาญ ด้านเวชศาสตร์ทหาร “
4.พันธกิจ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
จัดการศึกษาเพื่อผลิตบัณฑิตแพทย์ที่มีคุณภาพระดับสากล ผลิตผลงานวิจัยระดับนานาชาติที่มีมาตรฐานสูง โดยเฉพาะด้านเวชศาสตร์ทหาร สร้างสรรค์บริการทางวิชาการที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย และแบบธรรมเนียมทหาร
5.คำขวัญ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
” วิชายอด วินัยเยี่ยม เปี่ยมคุณธรรม “
6.ค่านิยม วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
- สามัคคี มีวินัย ใส่ใจผู้เรียน ผลงานเป็นเลิศ
- สามัคคี : มุ่งเน้นบุคคลากร
- มีวินัย : ภาวะผู้นำ ความซื่อสัตย์ ระบบเกียรติศักดิ์ จรรยาบรรณวิชาชีพ
- ใส่ใจผู้เรียน : มุ่งเน้นผู้เรียน ใช้ข้อมูลในการทำงาน ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ มุ่งเน้นอนาคต สร้างสรรค์นวัตกรรม และความคล่องตัว
- ผลงานเป็นเลิศ : มุ่งเน้นผลลัพธ์
7.ตราสัญญาลักษณ์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
ตราสัญญาลักษณ์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า คือ พระมหาพิชัยมงกุฎสีทอง เป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระมหากษัตริย์ มีรัศมี 17 แฉกล้อมแสดงถึงความรุ่งโรจน์กึ่งกลางพระมหาพิชัยมงกุฎมีเครื่องหมายอุณาโลม
ผู้ออกแบบ คือ พันเอกหญิง ศาสตราจารย์ทิพย์ ศรีไพศาล พันเอก สุชินทร์ แหลมทอง และข้าราชการเวชนิทัศน์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
8.เพลงประจำวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
- อินทนิล และ แพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
- ดอกไม้ประจำวิทยาลัย
- ดอกอินทนิล
- สีประจำวิทยาลัย
9.ที่อยู่ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าตั้งอยู่ที่ 317 ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
10.สิ่งอำนวยความสะดวก ด้านการกีฬา
- สนามฟุตบอลหญ้าเทียม
- สนามเทนนิส
- สระว่ายน้ำ
- โรงพลศึกษา
- Fitness room
11.หอพักใน วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
สำหรับนักเรียนแพทย์ที่ต้องการจะอยู๋ประจำในวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า จะมีการจัดหอพักไว้ให้ 2 หอ และยังมีอาคารกองการปกครอง ที่มีโรงประกอบเลี้ยง เพื่อจัดทำอาหารให้ นพท. สำหรับ ปี 2 – 3 วันละ 3 มื้ออีกด้วย
12.สิทธิที่จะได้รับขณะกำลังศึกษาและเมื่อจบการศึกษา
- นักเรียนแพทย์ทหาร (นพท.) มีสภาพเป็นนักเรียนทหารของกองทัพบก มีศักดิ์และสิทธิ์เทียบเท่านักเรียนนายร้อย (นนร.) โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
- นักเรียนแพทย์ทหารชายจะได้รับการขึ้นทะเบียนกองประจำการตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร ตั้งแต่ชั้นปีที่ 2 และนักเรียนแพทย์ทหารหญิงก็จะได้รับการบรรจุรับราชการตั้งแต่ชั้นปีที่ 2 หากได้รับบรรจุเข้าสังกัดกองทัพ
- นักเรียนแพทย์ทหารได้รับการจัดสถานที่พัก เครื่องนอน เครื่องแต่งกาย เงินเดือน เบี้ยเลี้ยง อุปกรณ์การเรียน การรักษาพยาบาล และสิทธิอื่นๆ ตามที่ทางราชการกำหนด
- นักเรียนแพทย์ทหารเข้าศึกษาโดยไม่ต้องเสียค่าลงทะเบียน และค่าหน่วยกิตใดๆ ทั้งสิ้นตั้งแต่ชั้นปีที่ 2 จนจบการศึกษา ทั้งนี้ตามที่ระเบียบวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้ากำหนดไว้ในแต่ละปี
- วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้ามีทุนการศึกษาให้กับนักเรียนแพทย์ทหารที่มีผลการเรียนดี หรือที่มีปัญหาทางด้านการเงิน
- เมื่อจบการศึกษาจะได้รับพระราชทานปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยมหิดล ในกรณีสำเร็จการศึกษาและบรรจุเข้ารับราชการทหาร จะได้รับพระราชทานกระบี่พร้อมกับนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (เฉพาะเพศชาย)
- นักเรียนแพทย์ทหาร ทุนกองทัพบกจะได้รับพระราชทานยศเป็นนายทหารสัญญาบัตร (ร้อยตรี เรือตรี เรืออากาศตรี) และบรรจุเข้ารับราชการเป็นแพทย์ทหารในสังกัดกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ หรือกองบัญชาการทหารสูงสุด
- นักเรียนแพทย์ทหาร ทุนสาธารณสุข หากไม่ได้รับบรรจุเป็นแพทย์ทหารเข้าสังกัดกองทัพ จะได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นแพทย์สังกัดกระทรวงสาธารณสุข เช่นเดียวกับแพทย์ที่จบจากสถาบันพลเรือนอื่นๆ
- ผู้ที่มีผลการเรียนดีตลอดหลักสูตร มีทุนกองทัพบกสนับสนุนให้ไปศึกษาต่อเพิ่มเติม ณ ต่างประเทศ
13.การรับบุคคลเข้าศึกษา วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
การรับบุคคลเข้าศึกษา วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า นั้นสามารถติดตามข่าวสารและสมัครได้ที่เว็บไซต์ http://www.pcm.ac.th/
14.คุณสมบัติ การรับสมัคร
คุณสมบัติ ของการสมัครเข้าเป็นนักเรียนแพทย์ของวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า มีดังนี้
- คุณสมบัติต้องผ่านตามเกณฑ์การรับสมัคร ของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย
- อายุไม่เกิน 20 ปี
- คะแนนสอบ O-NET
- คะแนนสอบ 9 วิชาสามัญ
- มีคุณสมบัติเพิ่มเติมตามเกณฑ์การเป็นนักเรียนแพทย์ทหาร หรือนักศึกษาแพทย์ (นพท.) ของวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าที่กำหนดเอาไว้
- ชาย ส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 160 เซนติเมตร น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 50 กิโลกรัม
- หญิง ส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 150 เซนติเมตร น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 40 กิโลกรัม
15.เครื่องแบบนักเรียนแพทย์ทหาร
เครื่องแบบนักเรียนแพทย์ทหารจะมีทั้งหมด 10 ช
- เครื่องแบบปกติขาว
- เครื่องแบบปกติกากีแกมเขียวคอแบะ
- เครื่องปบบปกติกากีแกมเขียวคอพับ
- เครื่องแบบปกติกากีนวลแกมเขียวคอพับ
- เครื่องแบบฝึก
- เครื่องแบบสนาม
- เครื่องแบบครึ่งยศ
- เครื่องแบบเต็มยศ
- เครื่องแบบสโมสร
- เครื่องแบบชุดปฏิบัติงาน แบบ ก และ ข
16.การเรียนการสอนวิชาแพทย์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
การเรียนการสอนวิชาแพทย์ของวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้
- ชั้นเตรียมแพทย์ (ปี 1) ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้นิสิตเตรียมแพทย์ของวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าศึกษาที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นระยะเวลา 1 ปี การศึกษาจะอยู่ในความรับผิดชอบตามกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- ชั้นปรีคลินิก (ปี 2-3) จะมีการจัดการเรียนการสอน ณ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า (เดิมการเรียนการสอนใช้สถานที่สถาบันพยาธิวิทยา กรมแพทย์ทหารบก ในบริเวณโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า) เป็นเวลา 2ปีก่อน
- ชั้นคลินิก (ปี 4-6) จะใช้สถานที่ของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เป็นเวลา 3 ปี
17.การฝึกวิชาทหารและเวชศาสตร์ทหาร
การฝึกวิชาทหารและเวชศาสตร์ทหารจะมีการจัด “วิชาทหาร”และ “เวชศาสตร์ทหาร” ไว้ในหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต ดังนี้
- การฝึกพื้นฐานทางการทหาร เป็นการฝึกวินัยทหารทั่วไป บุคคลท่ามือเปล่า บุคคลท่าอาวุธ วิชาอาวุธศึกษา วิชาแผนที่และเข็มทิศ โดยฝึกวินัยทหารทั่วไปและบุคคลท่ามือเปล่าที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ส่วนบุคคลท่าอาวุธ วิชาอาวุธศึกษา วิชาแผนที่และเข็มทิศ จะทำการฝึกที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (รร.จปร.)
- ทักษะทางการแพทย์ในสนามรบ เป็นการสอนการจัดกำลังพลของหมวดเสนารักษ์ การปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บในสนามรบ ทบทวนการฝึกพื้นฐาน ฝึกการซุ่มโจมตีและเล็ดลอดหลบหนี โดยเรียนภาคทฤษฎีที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า และฝึกภาคสนามที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
- ปฏิบัติการเพชราวุธ เป็นการสอนในรายวิชา “เวชปฏิบัติการยุทธ” เป็นการฝึกการจัดการบริการสายแพทย์ในระดับหน่วยและระดับกองพล ภายใต้สถานการณ์จำลองการรบต่างๆทั้งกลางวันและกลางคืน เป็นเวลาติดต่อกัน72ชั่วโมง เพื่อให้นักเรียนแพทย์ทหารได้ฝึกฝนและสัมผัสกับประสบการณ์การจัดหน่วย การดูแลผู้ป่วย และการส่งกลับผู้บาดเจ็บในสนามรบ ทั้งการใช้เปลสนาม รถพยาบาล รถศัลยกรรมเคลื่อนที่ และการส่งกลับสายแพทย์ทางอากาศด้วยเฮลิคอปเตอร์
18.วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ภาควิชา ชั้นปรีคลินิก
วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ภาควิชา ชั้นปรีคลินิก ได้แก่
- ภาควิชากายวิภาคศาสตร์
- ภาควิชาชีวเคมี
- ภาควิชาสรีรวิทยา
- ภาควิชาเภสัชวิทยา
- ภาควิชาจุลชีววิทยา
- ภาควิชาพยาธิวิทยา
- ภาควิชาปรสิตวิทยา
- ภาควิชาเวชศาสตร์ทหารและชุมชน
19.วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ภาควิชา ชั้นคลินิก
วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ภาควิชา ชั้นคลินิก ได้แก่
- ภาควิชาอายุรศาสตร์
- ภาควิชาศัลยศาสตร์
- ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
- ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
- ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์
- ภาควิชาจิตเวชและประสาทวิทยา
- ภาควิชาวิสัญญีวิทยา
- ภาควิชารังสีวิทยา
- ภาควิชาจักษุวิทยา
- ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา
- ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน
- ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู
- ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว
20.ติดต่อ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
- เบอร์ 083 569 9780
- เว็บไซต์ www.pcm.ac.th