ความรู้เกี่ยวกับงานส่งกําลังบํารุง ในส่วนของฝ่ายอำนวยการ

1494

การส่งกําลังบํารุง ของฝ่ายอำนวยการนั้นมีความสําคัญในการปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชนหรือภาครัฐก็ตาม โดยส่วนใหญ่ในภาคเอกชนจะคุ้นเคยกับคําว่า “Logistics” แต่ในภาครัฐนั้นจะใช้คําว่า “การส่งกําลังบํารุง” หรือ “พลาธิการ” ซึ่งในแต่ละคําเรียกจะมีลักษณะของกิจกรรม หรือการกระทําเพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้า และบริการนั้นๆ รวมถึงกระบวนการต่างๆในการดําเนินการเคลื่อนย้าย เพื่อจัดเก็บและการกระจายสินค้า โดยจะมีเป้าหมายในการส่งมอบให้รวดเร็วทันเวลา และมีค่าจัดส่งที่ไม่แพง

การส่งกําลังบํารุง ในภาครัฐจะถูกกําหนดให้เป็นงานอย่างหนึ่ง ที่จะคอยสนับสนุนต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่น เพื่อช่วยให้หน่วยสามารถดําเนินการได้บรรลุตามเป้าหมาย โดยแผนปฏิบัติงานหรือคําสั่งปฏิบัติการซึ่งการส่งกําลังบํารุงจะถูกดําเนินการหลอมรวมไว้ในแผน เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าสามารถดําเนินการได้จริงตามแผนที่กําหนดเอาไว้

การกําหนดงานของการส่งกําลังบํารุง

การกําหนดงานของการส่งกําลังบํารุง มีดังต่อไปนี้

  • การกําหนดนโยบาย การวางแผน การวิจัยและพัฒนา การทํางบประมาณในการส่งกําลังบํารุง
  • การออกแบบและพัฒนา การจัดหา การเก็บรักษา การแจกจ่าย การเคลื่อนย้ายการซ่อมบํารุงการส่งกลับและการจําหน่าย
  • การเคลื่อนย้ายการส่งกลับ การรักษากําลังพล
  • การจัดหาหรือการก่อสร้าง การซ่อมแซม การดําเนินงานและการจัดตั้งสิ่งอํานวยความสะดวกต่างๆ
  • การจัดหาหรือจัดให้มีบริการต่างๆ

ปัจจัยที่สําคัญในการส่งกําลังบํารุง

ปัจจัยที่สําคัญในการส่งกําลังบํารุง ได้แก่

  1. การบริหารคน เป็นปัจจัยที่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานส่งกําลังบํารุง ตั้งแต่ระดับชั้นผู้บังคับบัญชาไปจนถึงเจ้าหน้าที่ ที่คอยบริหารกําลังคน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผลกับงานสูงที่สุด
  2. การบริหารเงิน เงินในงบประมาณ ถือเป็นปัจจัยสําคัญอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติงานในด้านต่าง และเป็นจุดเริ่มต้นของการได้มาซึ่งคน วัสดุอุปกรณ์ และการบริหารเงินอย่างไรให้ใช้จ่ายต้นทุนน้อยที่สุดและให้เกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผล
  3. การบริหารวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ วัสดุอุปกรณ์สถานที่ และทรัพยากรอื่นๆ ถือเป็นอีกปัจจัยที่จำเป็รจะต้องมีพร้อมสนับสนุนภารกิจของหน่วยต่างๆ ดังนั้นการบริหารวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในการดําเนินงานให้มีต้นทุนที่น้อยที่ต่ำ แต่ได้ประโยชน์สูงสุด
  4. การบริหารจัดการ เป็นปัจจัยด้านกระบวนการจัดการบริหารควบคุมเพื่อทำให้งานทั้งหมดเป็นไปอย่างมีระบบ และเหมาะสมในแต่ละช่วงของสถานการณ์นั้นๆ ซึ่งจะส่งผลทําให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
  5. การบริหารเวลา คือการกําหนด และการควบคุมการปฏิบัติงานให้บรรลุผลตามช่วงเวลาที่ได้รับมอบหมาย และวัตถุประสงค์ที่ถูกกําหนดเพื่อก่อให้เกิดประสิทธิภาพ
  6. การบริหารคุณธรรม เป็นปัจจัยที่ควรมีเพื่อช่วยในเรื่องความประพฤติที่ดี
  7. การบริหารระบบสารสนเทศขององค์กร (Management Information System) หมายถึง การเก็บรวบรวมข้อมูล การประมวลผลและการสร้างสารสนเทศขึ้นมาเพื่อช่วยในการตัดสินใจ โดยตัวระบบสารสนเทศขององค์กรมีความสําคัญในการช่วยบริหารทรัพยากรขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  8. การบริหารข้อมูลข่าวสาร (Message) เป็นการดูแลข้อมูลข่าวสารที่ฝ่ายส่งกําลังบํารุงเสนอต่อผู้บังคับบัญชานั้นต้องเป็นข้อมูลของสถานการณ์ปัจจุบันที่เป็นอยู่จริง เพื่อที่จะได้นํามาซึ่งการวิเคราะห์ประมวลผล
  9. การบริหารการวัดผล (Measurement) การวัดผลเป็นปัจจัยที่จําเป็นต่อการบริหารจัดการ ซึ่งการวัดผลเพื่อประเมินจะทําให้ทราบว่ากระบวนการส่งกําลังบํารุงขั้นตอนใดมีปัญหาได้

ขอบเขตของงานส่งกําลังบํารุง

  1. การส่งกําลัง (Supply) การดําเนินงานตามวงรอบที่กําหนดเอาไว้ของงานพัสดุทั้งหมดที่ส่งกําลังให้นั่นคือรายการใด หรือทั้งหมดที่ต้องการรวมไปถึงเสบียงอาหาร, อาภรณ์ภัณฑ์,อาวุธกระสุน, วัตถุระเบิด, เชื้อเพลิง, เสบียงสัตว์, วัสดุ และเครื่องกลทุกชนิด
  2. การซ่อมบํารุงรักษา (Maintenance) การซ่อมบํารุงรักษาไม่ใช่งานทางด้านเทคนิคเพียงอย่างเดียว หรือเป็นการบํารุงรักษาที่ถูกวิธีและในช่วงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น แต่จะต้องคอยพิจารณาในด้านการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งยังต้องประหยัดและมีความปลอดภัยต่อบุคลากรที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งการซ่อมบํารุงรักษา จะประกอบไปด้วย
    • การซ่อมบํารุงรักษาแบบป้องกัน เช่น การตรวจสอบสภาพ การทดสอบ
    • การซ่อมบํารุงรักษาแบบแก้ไข คือช่วงเวลาที่วัสดุอุปกรณ์ต่างๆอยู่ในสภาพชํารุดจากการใช้งาน หรือหมดอายุการใช้งานแล้ว หน่วยที่รับผิดชอบจะต้องดําเนินการซ่อมบํารุงให้กลับคืนสภาพการใช้งาน
  3. การขนส่ง (Transportation) การเคลื่อนย้ายบุคคล หรือสิ่งของจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ไม่ว่าจะขนส่งทางบก, ทางนํ้า, ทางอากาศและทางอื่นๆ อีกทั้งยังรวมไปถึงการควบคุมอํานวยการกํากับดูแลการจราจรเพื่อช่วยในการเคลื่อนย้ายบุคคลหรือสิ่งของ โดยถ้าเป็นการเคลื่อนย้ายบุคคล เรียกว่า การขนส่งผู้โดยสาร หากเป็นการเคลื่อนย้ายสัตว์หรือสิ่งของต่างๆ จะเรียกว่า การขนส่งสินค้า
  4. การบริการทางการแพทย์ (Health Service Support) การส่งกลับสายการแพทย์ และการรักษาพยาบาล โดยจะดําเนินการส่งกลับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วย ที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ให้เข้ารับรักษาโดยเร็ว เพื่อช่วยรักษาชีวิตของผู้ป่วยและสามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้ปกติ
  5. การบริการอื่นๆ (Other Service) การปฏิบัติงานส่งกําลังบํารุงนอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้วนั้น คือหน้าที่ในส่วนนี้ เช่น การจัดทําประมาณการการจัดทําแผน/คําสั่งปฏิบัติการ, การวางแผน, การประสานงาน, และการอํานวยการความสะดวกในด้านต่างๆ เช่น ที่พัก, ห้องนํ้า, นํ้าดื่ม, อาหารเป็นต้น

หลักการส่งกําลังบํารุง

หลักการส่งกําลังบํารุงการปฏิบัติของหน่วยที่จะบรรลุเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่ได้วางไว้แล้วนั้น จะขึ้นอยู่กับคําสั่งปฏิบัติการ แต่ละคําสั่งดังกล่าวจะบรรลุได้ผลสําเร็จก็ขึ้นอยู่กับการดําเนินการส่งกําลังบํารุงที่ดี โดยจะมีหลักการส่งกําลังบํารุง 10 ประการดังนี้

  1. การรวมการสนับสนุน หมายถึง การรวมขีดความสามารถในการสนับสนุนทางการส่งกําลังของหน่วยสนับสนุนทั้งหมด เพื่อช่วยสนับสนุนแก่หน่วยปฏิบัติให้สามารถปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมาย
  2. การสนับสนุนจากข้างหลังไปข้างหน้า หน่วยสนับสนุนทางการส่งกําลังบํารุงที่อยู่ในที่ตั้งสํานักงานนั้นจะต้องคอยให้การสนับสนุนแก่หน่วยที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ซึ่งอยู่ส่วนหน้า รวมทั้งการสนับสนุนจากหน่วยเหนือไปยังหน่วยรองด้วย สิ่งนี้จะช่วยให้ปลดเปลื้องงานด้านการส่งกําลังบํารุงของหน่วยรอง (หน่วยปฏิบัติ) ให้มากที่สุด
  3. ความเชื่อถือได้ หน่วยสนับสนุนจะต้องมีขีดความสามารสูง เพื่อที่จะทําให้หน่วยที่ได้รับการสนับสนุน (หน่วยปฏิบัติ) มีความมั่นใจได้ว่า จะได้รับการสนับสนุนสิ่งของได้ตามเวลา ณ สถานที่ที่ได้กําหนดไว้
  4. ความง่ายของการส่งจะต้องมีกระบวนการและกรรมวิธีในการดําเนินการที่ไม่ยุ่งยากสลับซับซ้อน และเข้าใจได้ง่าย เพื่อขจัดขั้นตอนที่ไม่จําเป็นออกให้เหลือน้อยที่สุด หลีกเลี่ยงแบบฟอร์มที่ต้องกรอกข้อความต่างๆที่ไม่ได้นํามาใช้ประโยชน์ และต้องไม่ผ่านสายงานและเจ้าหน้าที่มากจนเกินไป ตลอดจนต้องไม่มีการขออนุมัติหลายลําดับชั้น ทั้งนี้จะต้องไม่ขัดต่อระเบียบ โดยหลักการประหยัดความง่ายยังรวมถึง การที่ใช้สิ่งอุปกรณ์ที่ใช้รวมกันได้หลายๆรายการสามารถใช้งานถอดประกอบและซ่อมบํารุงได้โดยง่ายอีกด้วย
  5. ความอ่อนตัวต่อการปรับเปลี่ยนการส่งกําลังบํารุงตามเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลง โดยเหตุที่งานด้านการส่งกําลังบํารุงจะต้องมีความอ่อนตัวเพียงพอที่จะสนับสนุนในเรื่องต่างๆ ได้แก่ภารกิจที่เปลี่ยนไป การปรับเปลี่ยนแนวความคิดในการปฏิบัติการ และสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปตามความเข้าใจอย่างละเอียดถึงความตั้งใจของผู้บังคับบัญชาหน่วยปฏิบัติจะช่วยให้ผู้วางแผนการส่งกําลังบํารุงสนับสนุนได้ตามความต้องการของหน่วยอย่างถูกต้องและต่อเนื่อง
  6. การตอบสนองต่อความต้องการและทันเวลา คอการที่จะต้องสนับสนุนสิ่งอุปกรณ์ให้หน่วยปฏิบัติได้มี และใช้ในปริมาณที่ต้องการ ณ เวลา และสถานที่ที่ถูกกําหนด โดยไม่เกิดการล่าช้า ทันต่อเวลาที่กําหนดไว้ในแผนการปฏิบัติทั้งนี้ ตัวผู้วางแผนจะต้องมีแนวทางที่ชัดเจน และต้องประสานงานกันอย่างถูกต้องระหว่างหน่วยปฏิบัติกับผู้รับผิดชอบงานส่งกําลังบํารุง
  7. การได้ส่วนสัมพันธ์ คือการที่จะต้องจัดเจ้าหน้าที่ในการส่งกําลังบํารุงให้เพียงพอต่อการปฏิบัติภารกิจไม่มากหรือน้อยเกินไป เพราะจะทําให้หน่วยปฏิบัติไม่สามารถดําเนินภารกิจได้ เช่น จะต้องจัดให้มีหน่วยส่งกลับทางการแพทย์ให้สัมพันธ์กับหน่วยทําการรักษาพยาบาล หรือจัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายขนส่งให้เพียงพอต่อการรับส่งกําลังพลต่อการปฏิบัติงาน
  8. อํานาจหน้าที่ ควรมอบหรือกระจายอํานาจหน้าที่ให้กับหัวหน้าหน่วยส่งกําลังบํารุง เพื่อที่จะได้ปฏิบัติหน้าที่ให้บรรลุผลต่อการสนับสนุนกับหน่วยปฏิบัติงาน
  9. ความปลอดภัย การสนับสนุนการส่งกําลังบํารุงควรคํานึงถึงความปลอดภัยของวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เช่น สิ่งอุปกรณ์, กระสุน, วัตถุระเบิด, เครื่องมือสื่อสาร, เจ้าหน้าที่เป็นต้น
  10. การประหยัดและความพอเพียง ในส่วนของการส่งกําลังบํารุงควรจะใช้กําลังพลสิ่งอุปกรณ์ และสิ่งอํานวยความสะดวกให้ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ขาดแคลน แต่ไม่เหลือเฟือ และต้องคํานึงถึงความประหยัดและความคุ้มค่าให้มากที่สุด