1.โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช คือ
โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช เป็นสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาของกรมยุทธศึกษาทหารอากาศ กองทัพอากาศไทย จะประกาศเปิดรับสมัครเข้าโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ในทุกๆปี โดยตัวโรงเรียนนั้นจะมีหน้าที่อำนวยการศึกษา ฝึกอบรม และปกครองนักเรียนนายเรืออากาศ เสนอแนะหลักสูตร และกำหนดแนวการสอน
โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราชจะมีผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรืออากาศฯ เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ บังคับบัญชาการดำเนินการศึกษาวิชาการและการทหาร รวมทั้งการฝึกฝน ด้านทฤษฎี และปฏิบัติ โดยยึดถือตามระเบียบวินัยที่ได้บัญญัติไว้ ดำเนินการฝึกฝน ระเบียบประเพณี มารยาท จริยธรรม ความเป็นผู้นำ และพัฒนาบุคลิก ความเป็นนักเรียนนายเรืออากาศ ปกครองดูแลนักเรียนนายเรืออากาศ ผู้ที่ศึกษาในโรงเรียนนายเรืออากาศฯ เรียกว่า นักเรียนนายเรืออากาศ
2.ประวัติ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช
ประวัติโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราชเริ่มขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2493 กองทัพอากาศรับบุคลากรที่ผลิตจากสถาบันการศึกษาอื่นๆและมหาวิทยาลัยเข้ามาทำงานในกองทัพอากาศ ต่อมาภารกิจและกิจการของกองทัพอากาศมีมากขึ้น รวมกับยังไม่มีสถาบันที่จะผลิตนายทหารสัญญาบัตรของตนเอง นอกจากนี้กองทัพอากาศยังต้องการนายทหารที่มีความรู้เฉพาะสาขาวิชามากกว่าด้านความรู้ทั่วไป จึงได้เตรียมการเริ่มตั้ง “โรงเรียนนายเรืออากาศ” เพื่อผลิตนายทหารหลักให้กับกองทัพอากาศขึ้น แต่ด้วยงบประมาณที่จำกัดประกอบกับปัญหาบางประการจึง ทำให้การก่อตั้งโรงเรียนนายเรืออากาศต้องล่าช้าออกไป
ต่อมาในปี พ.ศ. 2493 กรมยุทธศึกษาทหารอากาศ ได้ขอเสนอเสนาธิการทหารอากาศว่า นายทหารของกองทัพอากาศนั้น ควรที่จะได้รับการศึกษา และการฝึกฝนตลอดระยะเวลาที่รับราชการอยู่ในกองทัพอากาศ และในปีต่อมา เสนาธิการทหารอากาศได้มีคำสั่งให้กรมยุทธศึกษาทหารอากาศเตรียมโครงการเพื่อเปิดโรงเรียนนายเรืออากาศโดยละเอียด ซึ่งโครงการจัดตั้งโรงเรียนนายเรืออากาศนั้นได้รับนโยบายและความเห็นชอบจากผู้บัญชาการทหารอากาศในขณะนั้น จึงเสนอโครงการเพื่อขออนุมัติต่อคณะรัฐบาล แล้วต่อมาคณะรัฐมนตรีได้ประชุมลงมติอนุมัติเมื่อ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2495 แต่ยังไม่พร้อมที่จะทำการเปิดสอนได้
หลังจากนั้นได้ทำการคัดเลือกนักเรียนนายเรืออากาศรุ่นแรก จำนวน 30 นาย ซึ่งได้เข้ามารายงานตัวเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2496 โดยใช้ตึกเหลือง (กรมสวัสดิการทหารอากาศในปัจจุบัน) และได้จัดให้มีพิธีเปิดโรงเรียนขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2496 จึงได้ถือเอาวันดังกล่าวเป็นวันสถาปนาโรงเรียนนายเรืออากาศ
3.สัญลักษณ์ประจำสถาบัน
สัญลักษณ์ประจำสถาบัน โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราชนั้นจะเป็นรูปพระมหาพิชัยมงกุฎ มีพระอุณาโลมประดิษฐานอยู่ภายใน ส่วนของยอดพระมหาพิชัยมงกุฎมีพระรัศมีล้อมรอบ เบื้องล่างพระมหาพิชัยมงกุฎเป็นรูปอาร์มมีแถบสีธงไตรรงค์คาดเฉียง มีรูปปีกนกทรงรูปอาร์มไว้ทั้งด้านขวาและซ้าย (ปีกนักบินชั้นที่ 1) และภายใต้รูปอาร์มเป็นรูปดาว 5 แฉก มีช่อชัยพฤกษ์โค้งรองรับอยู่เบื้องล่าง รูปทั้งหมดอยู่ในวงกลมเบื้องล่างมีแพรแถบข้อความว่า “โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช” โดยความหมายของสัญลักษณ์จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้
- ปีกนักบินชั้นที่ 1 ถือเป็นสัญลักษณ์ของนักบินทหารอากาศ แสดงถึงนักเรียนนายเรืออากาศ ซึ่งสำเร็จออกเป็นนายทหารสัญญาบัตร และจะได้เป็นนักบินของทหารอากาศต่อไป
- ดาว 5 แฉกสีเงิน จะแสดงถึง ความมีเกียรติ
- ช่อชัยพฤกษ์ใบสีทอง จะแสดงถึง ความสำเร็จในด้านการศึกษาของนักเรียนนายเรืออากาศ
- วงกลมสีฟ้า และแถบปลายแฉกสะบัดสีเหลือง โดยสีฟ้า-เหลือง เป็นสีประจำโรงเรียน
4.โครงสร้างหน่วยงาน
โครงสร้างหน่วยงานของ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราชจะมีดังต่อไปนี้
- กองบัญชาการ
- กองการศึกษา
- กรมนักเรียนนายเรืออากาศรักษาพระองค์
- กองบริการ
- กองวิชาทหาร
- กองพลศึกษา
- กองเทคโนโลยีและสารสนเทศ
- กองสถิติและประเมินผล
- กองส่งเสริมและพัฒนางานวิจัย
- แผนกการเงิน
5.หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต มี 5 สาขาวิชา ได้แก่
- สาขาวิศวกรรมอากาศยาน
- สาขาวิศวกรรมเครื่องกล
- สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า
- สาขาวิศวกรรมโยธา
- สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ
6.หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต มี 2 สาขาวิชา ได้แก่
- สาขาคอมพิวเตอร์
- สาขาวัสดุศาสตร์ทางการทหารและอากาศยาน
7.วิสัยทัศน์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช
“เป็นสถาบันหลักที่ผลิตผู้นำและแหล่งองค์ความรู้ด้านการบินแห่งชาติ”
8.ภารกิจ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช
โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช มีหน้าที่วางแผนการปฏิบัติ อำนวยการ ประสานงาน กำกับการ และดำเนินการ เกี่ยวกับการศึกษา การฝึกอบรม และประเมินผลแก่นักเรียนนายเรืออากาศ รวมทั้งสนับสนุน การผลิตบุคลากรด้านการบิน มีผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรืออากาศ เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ
9.เครื่องหมายราชการของโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช
เครื่องหมายราชการ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช เป็นรูปพระมหาพิชัยมงกุฎ มีพระอุณาโลมประดิษฐานอยู่ภายใน ส่วนยอดพระมหาพิชัยมงกุฎมีพระรัศมีล้อมรอบ เบื้องล่าง พระมหาพิชัยมงกุฎเป็นรูปอาร์มมีแถบสีธงไตรรงค์คาดเฉียง มีรูปปีกนกทรงรูปอาร์มไว้ทั้งด้านขวา และซ้าย และภายใต้รูปอาร์มเป็นรูปดาว 5 แฉก มีช่อชัยพฤกษ์โค้งรองรับอยู่เบื้องล่าง รูปทั้งหมด อยู่ในวงกลมเบื้องล่างมีแพรแถบข้อความว่า “โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช”
10.คุณสมบัติของผู้สมัครเข้าเรียน
คุณสมบัติของผู้สมัครเข้าเรียนนั้นจะมีดังต่อไปนี้
- สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการหรือเทียบเท่า(ต้องมีหนังสือเทียบวุฒิการศึกษาจากกระทรวงศึกษาธิการ)สำหรับหลักสูตรปริญญาบัตรวิชาชีพ ต้องเป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาปีที่ 3
- อายุไม่ต่ำกว่า 16 ปี และไม่เกิน 18 ปี ในปีที่จะเข้ารับการศึกษาเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
- มีสัญชาติไทยโดยการเกิดและบิดา มารดามีสัญชาติไทยโดยการเกิดแต่ถ้าบิดาเป็นนายทหารสัญญาบัตรหรือนายทหารประทวน ซึ่งมีสัญชาติไทยโดยการเกิดแล้ว มารดาจะมิใช่เป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดก็ได้
- มีอวัยวะรูปร่างลักษณะท่าทางและขนาดของร่างกายเหมาะสมแก่การเป็นทหารไม่เป็นโรคตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงออกตามความในกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหารและตามที่กองทัพไทยกำหนดรายละเอียดตามผนวกท้ายระเบียบการทั่วไป
- เป็นชายโสด ไม่เคยมีความประพฤติเสื่อมเสียทางเพศหรือติดต่อได้เสียกับหญิงถึงขั้นที่จะถือว่าเป็นภรรยาโดยกฎหมาย
- เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่บกพร่องในศีลธรรมอันดีมีอุดมการณ์ เลื่อมใสในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และมีผู้ปกครองดูแลรับผิดชอบ
- ไม่เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวและไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
- ไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาคดีถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
- ไม่เป็นผู้ที่เคยถูกให้ออกหรือไล่ออก จากโรงเรียนเหล่าทัพ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และโรงเรียนเตรียมทหาร เพราะความผิดหรือถูกถอนทะเบียนจากความเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
- ไม่เป็นผู้เสพยาเสพติด หรือสิ่งเสพติดที่ผิดกฎหมาย หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
- บิดามารดาและผู้ปกครองเป็นผู้มีอาชีพอันชอบธรรมหรือมีหลักฐาน
- เป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองให้สมัครเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารแล้ว
- ต้องมีผู้ปกครองหรือผู้ค้ำประกันซึ่งสามารถรับรองข้อความและพันธกรณี ตามที่กองทัพไทยกำหนด
- ต้องไม่มีพันธกรณีผูกพันกับองค์กรของรัฐบาลหรือเอกชน อันจะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
11.วิธีการสมัครและค่าธรรมเนียมในการสอบ
วิธีการสมัครและค่าธรรมเนียมในการสอบ จะมีดังต่อไปนี้
- สมัครสอบได้ทางเว็บไซต์ http://www.nkrafa.rtaf.mi.th ไม่เว้นวันหยุดราชการยกเว้นวันสุดท้ายที่เปิดรับสมัครถึงเวลา 16.00 น.
- ค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ จำนวน 400 บาท(สี่ร้อยบาทถ้วน) การชำระค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ ดำเนินการโดยนำแบบฟอร์มการช าระเงินพร้อมค่าสมัครสอบจำนวน 400 บาทไปชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส ทั้งนี้การสมัครสอบจะมีผลสมบูรณ์ต่อเมื่อ ผู้สมัครสอบได้ชำระค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบแล้วเท่านั้น และจะไม่คืนเงินค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบให้ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้นผู้สมัครสอบที่ชำระเงินแล้วสามารถตรวจสอบรายชื่อ สถานที่สอบ และพิมพ์บัตรประจำตัวสอบ ได้ที่เว็บไซต์ http://www.nkrafa.rtaf.mi.th ตามวันและเวลาที่จะประกาศให้ทราบ
- ค่าตรวจร่างกาย ตามที่คณะกรรมการแพทย์กำหนดและในกรณีที่แพทย์ต้องตรวจพิเศษนอกเหนือจากการตรวจปกติ ผู้รับการตรวจจะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งสิ้นอัตราค่าตรวจปกติรายละ 1,000 บาท (หนึ่งพันบาทถ้วน)
- ค่าพิมพ์ลายนิ้วมือ ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมเพื่อบรรจุเข้ารับราชการ มีอัตราค่าธรรมเนียมและค่าดำเนินการรายละ 120 บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบบาทถ้วน)
12.การยื่นหลักฐานการสมัครสอบและคะแนนเพิ่มพิเศษ
ผู้สมัครสอบที่สอบผ่านรอบแรกวิชาการจะต้องยื่นหลักฐานให้แก่เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ในวันที่ประกาศผลสอบรอบแรกและรายงานตัว ดังนี้
- สำเนาเอกสารแสดงผลการเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 หรือเทียบเท่า
- สำเนาทะเบียนบ้านผู้สมัคร บิดาและมารดาผู้ให้กำเนิด คนละ 1 ฉบับ หากผู้สมัครมีบิดามารดา ที่มีชื่อหรือนามสกุลในหลักฐานต่างๆ ไม่ตรงกัน ต้องแก้ไขให้เรียบร้อยก่อน (โดยแก้ไขที่อำเภอ/เขต) พร้อมแนบสำเนาหลักฐานการแก้ไขมาแสดงด้วย
- เอกสารการเปลี่ยน ชื่อ -สกุล ของผู้สมัครและบิดา มารดา (ถ้ามี)
- กรณีที่บิดาหรือมารดาถึงแก่กรรม และไม่มีชื่ออยู่ในสำเนาทะเบียนบ้าน ให้นำหลักฐานใบมรณบัตรและหนังสือที่ทางราชการออกให้ เพื่อแสดงสัญชาติของบิดา มารดา
- กรณีที่ ปู่-ย่า หรือ ตา-ยาย ของผู้สมัครไม่มีสัญชาติไทย ให้นำหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้มาแสดง
- สูติบัตรของบิดาหรือมารดาของผู้สมัคร
- หนังสือรับรองที่ออกโดยนายทะเบียนท้องที่ของสำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอท้องที่ที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในท้องที่นั้นรับรองว่าบิดาหรือมารดาของผู้สมัครมีสัญชาติไทยโดยการเกิด
- หลักฐานการได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษ (ถ้ามี)
13.การทดสอบวิชาการ
การสอบวิชาการ แบ่งเป็น 4 วิชา ใช้เวลาสอบ 4ชั่วโมง (คะแนนรวม 700 คะแนน)
- วิชาภาษาอังกฤษ คะแนนเต็ม 160 คะแนน
- วิชาภาษาไทยและวิชาสังคมศึกษา คะแนนเต็ม 100 คะแนน
- วิชาวิทยาศาสตร์ คะแนนเต็ม 220 คะแนน
- วิชาคณิตศาสตร์ คะแนนเต็ม 220 คะแนน
14.เกณฑ์การพิจารณาการสอบวิชาการ
เกณฑ์การพิจารณาการสอบวิชาการ จะจัดเรียงลำดับตามคะแนนรวมวิชาการจากมากไปหาน้อย โดยถ้าคะแนนรวมเท่ากันให้เปรียบเทียบคะแนนวิชาวิทยาศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาภาษาอังกฤษ วิชาภาษาไทยและวิชาสังคมศึกษาตามลำดับ
15.การสอบรอบสอง
การสอบรอบสอง ผู้เข้าสอบรอบสอง คือผู้ที่มีรายชื่อสอบผ่านวิชาการและรายงานตัวเข้าสอบรอบสองไว้แล้วเท่านั้น โดยต้องเข้ารับการสอบทุกรายการดังต่อไปนี้
- การทดสอบความถนัดและวิภาววิสัย
- การสอบพลศึกษา
- การสอบสัมภาษณ์
- การตรวจร่างกายและทดสอบสุขภาพจิต
- การตรวจร่างกาย
- การทดสอบสุขภาพจิต
- การปฏิบัติในการตรวจร่างกายและทดสอบสุขภาพจิต
16.ข้อควรปฏิบัติในการสอบวิชาการ
ข้อควรปฏิบัติในการสอบวิชาการ จะมีดังต่อนี้
- แต่งกายชุดนักเรียน หรือชุดเครื่องแบบสถาบัน
- หลักฐานที่ต้องนำมาในวันสอบวิชาการ
- บัตรประจำตัวประชาชนหรือใบอนุญาตขับขี่โดยบัตรดังกล่าวนั้นต้องไม่หมดอายุ และจะต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ชัดเจน ทั้งรูปถ่ายและตัวอักษร
- บัตรประจำตัวสอบที่ปรากฏรูปถ่ายของผู้สมัครสอบ ระบุรหัสประจำตัวสอบ สถานที่สอบ ชื่อ สกุล วัน เดือน ปีเกิด เลขประจำตัวประชาชนและลงลายมือชื่อจึงจะถือว่าสมบูรณ์ (พิมพ์สีเท่านั้น)
- อุปกรณ์ที่อนุญาตให้ผู้สมัครสอบนำเข้าห้องสอบ ได้แก่ ดินสอดำชนิด 2B ขึ้นไปสำหรับระบายกระดาษคำตอบ ยางลบดินสอและผู้สมัครสอบต้องนำบัตรตามข้อ
- มาในวันสอบวิชาการ หากไม่นำบัตรทั้ง 2 มาแสดงจะไม่อนุญาตให้เข้าสอบ
- การขาดสอบวิชาการในชุดวิชาใดวิชาหนึ่ง จะถือว่าผู้สมัครสละสิทธิ์ในการสอบคัดเลือก
- การออกจากห้องสอบ สามารถออกได้เมื่อหมดเวลาสอบแล้วเท่านั้น
- ผู้สมัครสอบต้องปฏิบัติตามคำสั่งและคำแนะนำของกรรมการคุมสอบโดยเคร่งครัด
17.การหมดสิทธิ์ในการสอบคัดเลือก
การหมดสิทธิ์ในการสอบคัดเลือก จะมีดังต่อไปนี้
- เข้าห้องสอบวิชาการหรือการสอบรอบสองช้ากว่าเวลาที่เริ่มต้นสอบหรือทดสอบนาทีจะไม่อนุญาตให้เข้าสอบหรือทดสอบถือว่าหมดสิทธิ์ในการสอบ
- ขาดสอบวิชาการชุดวิชาใดวิชาหนึ่ง
- ขาดการทดสอบความถนัดและวิภาววิสัยหรือขาดการสอบพลศึกษาหรือขาดการสอบสัมภาษณ์หรือขาดการตรวจร่างกายและทดสอบสุขภาพจิตรายการใดรายการหนึ่งหรือทุกรายการ
- ทุจริตในการสอบ หรือช่วยเหลือการทุจริตการสอบ
- พูดหรือติดต่อสื่อสารในลักษณะต่างๆ กับผู้สมัครสอบคนอื่น
- ลุกจากที่นั่ง ชะโงกหน้า เหลียวมองกระดาษคำตอบของผู้สมัครสอบคนอื่น
- วางกระดาษคำตอบในลักษณะเกื้อกูลกับผู้สมัครสอบข้างเคียง
- ลักลอบนำเอกสารหรืออุปกรณ์ต้องห้ามได้แก่ กระดาษทด กระดาษร่าง ตำราเครื่องคำนวณเลข เครื่องมือสื่อสาร เครื่องมือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด เครื่องประดับ นาฬิกาข้อมือสร้อยคอ แหวน ตุ้มหู อุปกรณ์ที่ทำด้วยโลหะทุกชนิด และอุปกรณ์อื่นๆ ที่กรรมการคุมสอบพิจารณาไม่อนุญาตให้นำเข้า
- เขียนข้อความใดๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการสอบไว้ตามร่างกาย บนชุดที่สวมใส่หรือบนอุปกรณ์ต่างๆ แล้วนำเข้าห้องสอบ
- ลอกคำตอบจากผู้อื่น หรือให้ผู้อื่นลอกคำตอบ ทั้งนี้ไม่ว่าจะถูกตรวจพบในระหว่างการสอบหรือภายหลังการสอบเสร็จสิ้นแล้วก็ตาม
- ทำข้อสอบให้ผู้อื่น หรือให้ผู้อื่นทำข้อสอบให้ ทั้งนี้ไม่ว่าจะถูกตรวจพบในระหว่างการสอบหรือภายหลังการสอบเสร็จสิ้นแล้วก็ตาม
- แลกกระดาษคำตอบกับผู้อื่น
- ปัญหาสอบเป็นลิขสิทธิ์ของโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ห้ามผู้สมัครสอบคัดลอกหรือนำออกนอกห้องสอบเป็นอันขาด ต้องส่งคืนให้ครบทุกหน้าและทุกแผ่น ผู้ใดฝ่าฝืนจะมีความผิดทางกฎหมาย และถือว่าหมดสิทธิ์ในการสอบคัดเลือก
- กรณีที่ผู้สมัครสอบได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องสอบชั่วคราว เพื่อทำกิจจ าเป็นส่วนตัวจะต้องไม่ทำการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสอบที่กำลังดำเนินอยู่เป็นอันขาด หากฝ่าฝืนให้ถือว่าเป็นการกระทำการทุจริตในการสอบ
- หากอุปกรณ์การสอบของผู้สมัครสอบ ตก หรือปลิวไปจากโต๊ะสอบ ให้ผู้สมัครสอบที่เป็นเจ้าของ ขออนุญาตเก็บโดยกรรมการคุมสอบจะต้องเป็นผู้เก็บให้ ห้ามผู้สมัครสอบคนอื่นเก็บโดยเด็ดขาดการฝ่าฝืนถือเป็นการกระทำการทุจริตในการสอบ
- พฤติกรรมอื่นๆ ที่กรรมการคุมสอบพิจารณาแล้ว เห็นว่าเป็นการทุจริตในการสอบ
- ไม่มีหลักฐานที่ต้องใช้ในการยืนยันตัวตนมาแสดงในวันสอบวิชาการ
- ตรวจพบการปลอมแปลงเอกสารหลักฐานทุกชนิด
- เป็นผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดอื่นๆที่กล่าวมา
18.สวัสดิการขณะเป็นนักเรียนนายเรืออากาศ
สวัสดิการขณะเป็นนักเรียนนายเรืออากาศ จะมีดังนี้
- ไม่เสียค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา อาหาร เครื่องแต่งกาย ที่พัก ได้รับเบี้ยเลี้ยงและเงินเดือนประจำจำนวน 3,079 – 5,340 บาท ตามชั้นปีและหน้าที่บังคับบัญชา
- นักเรียนชั้นปีที่ 1 ที่มีผลการศึกษาดีมีสิทธิ์สอบคัดเลือกไปศึกษาในสถาบันทหารหรือมหาวิทยาลัยต่างประเทศ ปีละ 9 -10 ทุน ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ สาธารณรัฐเกาหลี สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เครือรัฐออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และราชอาณาจักรสเปน
- ตามหลักสูตรโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช กำหนดให้ นักเรียนทุกคนได้ฝึกเดินอากาศและดูงาน ณ ต่างประเทศรวมทั้งฝึกบินกับเครื่องบินฝึกของกองทัพอากาศ
- มีโครงการแลกเปลี่ยนดูงานระหว่างโรงเรียนทหารต่างประเทศ
19.สิ่งที่ได้รับเมื่อสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช
สิ่งที่ได้รับเมื่อสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช
- ได้รับพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตหรือวิทยาศาสตรบัณฑิต
- ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งยศเป็นว่าที่เรืออากาศตรี ได้รับเงินเดือนไม่น้อยกว่า 16,550 บาท
- ผู้ที่จบหลักสูตรด้านการบินจากโรงเรียนการบินจะได้รับเงินค่าฝ่าอันตรายเดือนละ 13,200 บาทและเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บังคับอากาศยาน เดือนละ 15,000 บาท เพิ่มจากเงินเดือนประจำ
- ผู้ที่มีการศึกษาดี มีสิทธิ์สมัครสอบคัดเลือกทุนกองทัพอากาศ เพื่อไปศึกษาในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ณ ต่างประเทศ
20.ติดต่อ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช
โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราชตั้งอยู่ที่ 171/1 ถนนพลโยธิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร 10220
- เว็บไซต์ http://www.nkrafa.ac.th/
- โทร. 02 534 4331, 02 534 3618
- โทรสาร 02 534 5533
ขอบคุณภาพจาก โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช