1.กรมสอบสวนคดีพิเศษ คือ
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (Department of Special Investigation) คือ หน่วยงานของรัฐ ที่สังกัดอยู่ในกระทรวงยุติธรรม ทำหน้าที่เพื่อป้องกัน ปราบปราม และควบคุมอาชญากรรมที่มีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
2.กรมสอบสวนคดีพิเศษ ก่อตั้งขึ้นเมื่อไหร่
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545 ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม โดยใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า Department of Special Investigation มีชื่อย่อว่าที่ถูกเรียกกันบ่อยครั้งคือ DSI
3.คณะกรรมการคดีพิเศษ
คณะกรรมการคดีพิเศษชุดปัจจุบัน (2 มกราคม พ.ศ. 2562 – ปัจจุบัน)
- นาย ธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย
- นาย สราวุธ เบญจกุล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินการธนาคาร
- พลตำรวจเอก ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
- พลตำรวจโท ปัญญา เอ่งฉ้วน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสอบสวนคดีอาญา
- นาย รวี ประจวบเหมาะ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านความมั่นคงประเทศ
- ดร. มานะ นิมิตรมงคล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
- ดร. ภาสกร ประถมบุตร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
- ดร. พันธุ์ทิพย์ นวานุช ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย
- ดร. ศรพล ตุลยะเสถียร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์
4.อำนาจหน้าที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ
กรมสอบสวนคดีพิเศษมีบทบาทภารกิจดังต่อไปนี้
- รับผิดชอบงานเลขานุการของคณะกรรมการตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- ป้องกัน ปราบปราม สืบสวน และสอบสวนคดีพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ และตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการคดีพิเศษประกาศกำหนดหรือตามมติของคณะกรรมการคดีพิเศษ ตลอดจนปฏิบัติงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับ ความผิดทางอาญาที่เป็นคดีพิเศษ
- ศึกษา รวบรวม จัดระบบ และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประโยชน์แก่การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ และเพื่อป้องกัน ปราบปราม สืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษ
- จัดให้มีการศึกษา อบรม และพัฒนาระบบงานการสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษการพัฒนาความรู้และการประเมินสมรรถภาพการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ พนักงานราชการและลูกจ้างของกรม และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะมีฐานะเป็นพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษหรือไม่
- ดำเนินการเกี่ยวกับงานกฎหมายและระเบียบที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมและงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
- ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมหรือตามที่รัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
5.ภารกิจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ภารกิจกรมสอบสวนคดีพิเศษ คือ การป้องกัน การปราบปราม การสืบสวนและการสอบสวนคดีความผิดทางอาญาที่ต้องดำเนินการสืบสวนและสอบสวนโดยใช้วิธีการพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ
6.อำนาจหน้าที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ
- รับผิดชอบงานเลขานุการของคณะกรรมการตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- ป้องกัน ปราบปราม สืบสวน และสอบสวนคดีพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ และตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการคดีพิเศษประกาศกําหนดหรือตามมติของคณะกรรมการคดีพิเศษ ตลอดจนปฏิบัติงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับความผิดทางอาญาที่เป็นคดีพิเศษ
- ศึกษา รวบรวม จัดระบบ และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประโยชน์แก่การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ และเพื่อป้องกัน ปราบปราม สืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษ
- จัดให้มีการศึกษา อบรม และพัฒนาระบบงานการสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษการพัฒนาความรู้และการประเมินสมรรถภาพการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ พนักงานราชการและลูกจ้างของกรม และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะมีฐานะเป็นพนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษหรือไม่
- ดําเนินการเกี่ยวกับงานกฎหมายและระเบียบที่อยู่ในอํานาจหน้าที่ของกรมและงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
- ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกําหนดให้เป็นอํานาจหน้าที่ของกรม หรือตามที่รัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
7.ตราสัญลักษณ์กรมสอบสวนคดีพิเศษ
8.เหตุที่ต้องก่อตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ
จากสถานการณ์ของโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วการพัฒนาด้านเทคโนโลยีส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจสังคมการเมืองวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมตลอดถึงการก่ออาชญากรรมต่างๆ โดยอาชญากรรมที่ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจที่มีมูลค่ามหาศาล ละการใช้ช่องว่างของกฎหมายปิดบังความผิด ทั้งยังส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรงเป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีอิทธิพลและเครืองข่ายองค์กร ที่โยงใยทั้งภายในและภายนอกประเทศทำให้ยากต่อการสืบสวนสอบสวน จึงต้องมีการจัดตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษขึ้นมา โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษแห่งราชอาณาจักรไทย (Department of Special Investigation) หรือ ดีเอสไอ DSI) เป็นหน่วยงานของรัฐ สังกัด กระทรวงยุติธรรม เพื่อป้องกัน ปราบปราม และควบคุมอาชญากรรมที่มีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
9.วิสัยทัศน์ (Vision)
เป็นองค์การหลักในการบังคับใช้กฎหมายกับอาชญากรรมพิเศษตามมาตรฐานสากล” โดยกำหนดความหมายของวิสัยทัศน์ ดังนี้
- การบังคับใช้กฎหมาย หมายถึง การใช้อำนาจการสืบสวนสอบสวนตามที่กำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และแก้ไขเพิ่มเติม
- อาชญากรรมพิเศษ หมายถึง อาชญากรรมซึ่งมีลักษณะแตกต่างจากอาชญากรรมพื้นฐาน เป็นอาชญากรรมที่มีความสำคัญและจำเป็นต้องได้รับความสนใจเป็นกรณีพิเศษ โดยมีความละเอียดและซับซ้อน ยุ่งยาก และร้ายแรง อาทิ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (White Collar Crime) องค์กรอาชญากรรม (Organization Crime) อาชญากรรมข้ามชาติ (Transnational Crime)
- มาตรฐานสากล หมายถึง หลักเกณฑ์มาตรฐานที่เป็นไปตามเกณฑ์ตัวชี้วัดหลักนิติธรรมขององค์การสหประชาชาติ (The United Nations Rule of Law Indicators) ประกอบด้วย หลักประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน, หลักความเที่ยงตรง เป็นกลาง ความรับผิดชอบและความโปร่งใส, หลักการคุ้มครองบุคคลที่มีความเสี่ยงต่อการถูกละเมิด และหลักศักยภาพ โดยมีการประเมินด้วยตัวชี้วัด (KPIs) จำนวน 7 ตัว ได้แก่
- การบรรลุเป้าหมายและผลผลิต
- ความเชื่อมั่นจากสังคม
- การทำงานที่ยึดถือเป้าหมายและความรับผิดชอบร่วมกัน
- ความโปร่งใส
- ความพร้อมด้านอุปกรณ์ เครื่องมือ
- ความพร้อมด้านทรัพยากรบุคคล
- ประสิทธิภาพในการบริหารงาน
ทั้งนี้ การดำเนินการตามมาตรฐานดังกล่าว อยู่บนหลักพื้นฐานของมาตรา 29 (ว่าด้วยการรับโทษทางอาญา) และมาตรา 68 (ว่าด้วยสิทธิของบุคคลในกระบวนการยุติธรรม) ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
10.พันธกิจ (Mission)
“ป้องกัน ปราบปราม สืบสวน สอบสวนและดำเนินคดีพิเศษอย่างมีประสิทธิภาพด้วยความเป็นธรรม”
11.เป้าหมาย (Goals)
เป้าประสงค์ (Goals)
- การสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษที่มีมาตรฐาน
- กระบวนการสนับสนุนที่เสริมสร้างประสิทธิภาพการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษที่เป็นรูปธรรม
- ผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเชื่อมั่นในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ
- อัยการเห็นพ้องกับความเห็นของพนักงานสอบสวนในส านวนคดีพิเศษ
- ศาลพิพากษาสอดคล้องกับส านวนคดีพิเศษ
- มูลค่าทรัพย์สินและผลประโยชน์ของรัฐ เอกชน และประชาชนได้รับการปกป้อง รักษา เรียกคืน
- บุคลากรเชี่ยวชาญในงานมีคุณธรรม จริยธรรม และมีความผาสุก
- มีวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งสู่การอ านวยความยุติธรรม
- ระบบเทคโนโลยีดิจิทัลที่เชื่อมโยง ทันสมัย และปลอดภัย
- มีนวัตกรรมและเครื่องมือสนับสนุนการสืบสวนสอบสวนที่มีประสิทธิภาพ และทันสมัย
- การป้องกันอาชญากรรมพิเศษอย่างเป็นระบบ
- ประชาชนรับรู้ เข้าใจ ภารกิจกรมสอบสวนคดีพิเศษ และตระหนักถึงภัยอาชญากรรมพิเศษ๑๓) ประชาชนทั่วไปรู้เท่าทัน และไม่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมพิเศษ๑๔) การพัฒนาองค์การของกรมสอบสวนคดีพิเศษตามหลักธรรมาภิบาล
12.ผลสัมฤทธิ์ (Result)
- เป็นที่เชื่อถือ ศรัทธาของสังคมในการป้องกันปราบปราม สืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ
- ตัวชี้วัด : ร้อยละความเชื่อมั่นของสาธารณชนที่มีต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษเพิ่มขึ้นทุกปี
- ปกป้อง รักษา เรียกคืนทรัพย์สิน และผลประโยชน์ให้แก่รัฐ เอกชน และประชาชน
- ตัวชี้วัด : มูลค่าทรัพย์สิน/ผลประโยชน์ที่สามารถปกป้อง เรียกคืนให้แก่รัฐ เอกชน และประชาชน
- สาธารณชนรู้เท่าทันและไม่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมคดีพิเศษ
- ตัวชี้วัด : ร้อยละของการรับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับอาชญากรรมพิเศษเพิ่มขึ้นทุกปี
13.ยุทธศาสตร์ (Strategic Issue)
- พัฒนาระบบการสืบสวนสอบสวนที่มีประสิทธิภาพ และมีประสิทธิผล (Standard System)
- พัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีความเป็นมืออาชีพ (Smart Agent)
- สร้างเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย (Super Technology)
- บูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน (Strong Collaboration)
- การบริหารจัดการองค์การเพื่อความยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาล (Sustainable Administration)
14.ค่านิยม (Core Value)
“เกียรติศักดิ์ เชี่ยวชาญ ซื่อสัตย์”
- เกียรติศักดิ์ (Dignity) หมายถึง มีความภาคภูมิใจ มีศักดิ์ศรี มีศรัทธาต่อองค์กร ดำรงตนอย่างมีเกียรติและมีศักดิ์ศรี เหมาะสมสถานะ มีวินัยในตนเองมีความรักสามัคคีต่อองค์การและเพื่อนร่วมงาน
- เชี่ยวชาญ (Specialty) หมายถึง มีความรู้ความสามารถ และความเชี่ยวชาญอันเกิดจาก การสั่งสมประสบการณ์ในการทำงานจนเป็นที่ยอมรับของบุคลากรทั้งภายในและภายนอก
- ซื่อสัตย์ (Integrity) หมายถึง มีคุณธรรม จริยธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต ต่อตนเองและ ผู้อื่นการยึดหลักธรรมาภิบาลในการปฏิบัติงานยึดมั่น และปฏิบัติตามเศรษฐกิจพอเพียง
15.หน่วยงานในสังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ
- หน่วยงานให้มีตามกฎกระทรวงฯ
- กลุ่มตรวจสอบภายใน
- กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร
- หน่วยงานตามกฎกระทรวงฯ
- สำนักงานเลขานุการกรม
- กองกฎหมาย
- กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ
- กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน
- กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ
- กองคดีความมั่นคง
- กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค
- กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ
- กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา
- กองคดีการค้ามนุษย์
- กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ
- กองคดีภาษีอากร
- กองเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ
- กองนโยบายและยุทธศาสตร์
- กองบริหารคดีพิเศษ
- กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค
- กองปฏิบัติการพิเศษ
- กองพัฒนาและสนับสนุนคดีพิเศษ
16.หน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องโดยตรง
- สำนักงานรัฐมนตรี
- สำนักผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม
- ตรวจสอบภายในระดับกระทรวง
- ปลัดกระทรวงยุติธรรม
- สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม
- สำนักงานกิจการยุติธรรม
- กลุ่มภารกิจด้านอำนวยความยุติธรรม
- กรมสอบสวนคดีพิเศษ
- สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
- กลุ่มภารกิจด้านเสริมสร้างความยุติธรรม
- กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
- กรมบังคับคดี
- กลุ่มภารกิจด้านพัฒนาพฤตินิสัย
- กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
- กรมราชทัณฑ์
- กรมคุมประพฤติ
- ส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรมที่ขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีฯ
- สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)
- สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)
- ส่วนราชการที่ไม่สังกัดกระทรวงยุติธรรมแต่อยู่ในกำกับดูแล
- สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
- หน่วยงานอิสระที่ไม่สังกัดกระทรวงยุติธรรม
- สถาบันอนุญาโตตุลาการ
- เนติบัณฑิตยสภา
- สภาทนายความ
17.คดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ในความรับผิดชอบ
คดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ในความรับผิดชอบ จะเป็นคดีอาชญากรรมพิเศษ ที่อยู่ในคดีอาญาตามกฎหมายกำหนดไว้ในบัญชีท้าย พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 หรือคดีอาญาที่ได้กำหนดเป็นกฎกระทรวงโดยการเสนอแนะของคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) คดีดังกล่าวต้องมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้
- คดีความผิดทางอาญาที่มีความซับซ้อน จำเป็นต้องใช้วิธีการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเป็นพิเศษ
- คดีความผิดทางอาญาที่มีหรืออาจมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนความมั่งคงของประเทศความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือระบบเศรษฐกิจหรือการคลังของประเทศ
- คดีความผิดทางอาญาทีมีลักษณะเป็นคดีความผิดข้ามชาติที่สำคัญหรือเป็นการกระทำขององค์กรอาชญากรรม
- คดีความผิดทางอาญาที่มีผู้ทรงอิทธิพลที่สำคัญเป็นตัวการผู้ใช้หรือผู้สนับสนุน
- คดีความผิดทางอาญาที่มีพนักงานฝ่ายปกครองชั้นผู้ใหญ่หรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ซึ่งมิใชพนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษเป็นผู้ต้องสงสัยเมื่อมีหลักฐานตามสมควรว่าน่าจะได้กระทำความผิดอาญา หรือเป็นผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ต้องหา
18.คุณสมบัติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ
- คุรศมบัติ
- มีสัญชาติไทย
- อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี
- เป็นผู้เลื่อใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยความบริสุทธิ์ใจ
- ข้อห้าม
- เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
- เป็นคนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริต หรือจิตฟั่รเฟืองไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่กำหนดในกฎ ก.พ.
- เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักราชการ หรือถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามกฎหมายอื่น
- เป็นผู้บกพร่องในศิลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจในสังคม
- เป็นกรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งรับผิดชอบในการบริหารพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
- เป็นบุคคลล้มละลาย
- เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเพราะกระทำความผิดทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
- เป็นผู้เคยถูกลงโทศให้ออกหรือปลดออก เพราะกระทำผิดวินัยตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามกฎหมายอื่น
- เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการ หรือเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ
19.ช่องทางรับฟังความคิดเห็น/แนะนำติชมและแจ้งปัญหา DS
ช่องทางรับฟังความคิดเห็น/แนะนำติชมและแจ้งปัญหา www.dsi.go.th
20.ติดต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ติดต่อกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้โดยเดินทางไปที่ 128 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
- โทรศัพท์ 0-2831-9888
- โทรสาร 0-2975-9888
- E-mail [email protected]