ระเบียบการและวิธีการ สมัครโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เตรียมความพร้อมอย่างไรก่อนเข้าสอบเป็นเรื่องที่ควรทราบเพื่อเตรียมตัวเสียแต่เนิ่นๆ สำหรับอนาคตการเป็นนายตำรวจ สุภาพบุรุษสีกากี ระเบียบการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ คำตอบทั้งหมดมีอยู่ในบทความดังกล่าวข้างต้นนี้
ระเบียบการโรงเรียนนายร้อยตำรวจในส่วนคุณสมบัติเบื้องต้น?
โรงเรียนนายร้อยตำรวจก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ 2444 เป็นสถาบันอบรมวิชาชีพเฉพาะทางสำหรับการเตรียมตัวเป็นตำรวจสังกัดภายใต้การดูแลของโรงเรียนนายร้อย ในทุกปีจะมีผู้ให้ความสนใจสมัครสอบเข้ารับการศึกษายังสถาบันแห่งนี้เป็นจำนวนหลักหมื่นต้น ๆ ทว่าผ่านเกณฑ์เพียง 400 กว่าคนในรอบแรกและรอบสองคัดเหลือ 200 กว่าคนเท่านั้น กระทั่งในปี พ.ศ. 2563 มีการเปิดสมัครขึ้นอีกครั้ง นับว่าเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ที่สนใจเข้ามาสอบแข่งขัน ในส่วนของการเตรียมตัวอย่างไรให้พร้อมนั้น ? ระเบียบการโรงเรียนนายร้อยตำรวจในส่วนคุณสมบัติเบื้องต้น ที่นี่มีคำตอบสำหรับผู้ที่สนใจดังต่อไปนี้
- ต้องมีอายุครบ 16 ปีและไม่เกิน 18 ปี ในปีที่จะเข้ารับการศึกษาเป็นนักเรียนเตรียมทหาร การนับอายุให้นับปีชนปีและผู้สมัครต้องเกิดช่วงปี พ.ศ.2545-พ.ศ.2547 หรือตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทางทหาร
- จบการศึกษาระดับมัธยมปลายที่ 4 หรือเทียบเท่า ตรงตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการและเทียบเท่า
- ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทยตั้งแต่เกิดหมายรวมถึงบิดามารดา แต่จะยกเว้นในกรณีที่มีบิดาเป็นข้าราชการตำรวจหรือทหารชั้นสัญญาบัตร มารดาสามารถเป็นบุคคลต่างสัญชาติได้
- มีสถานะโสดไม่มีเรื่องเสื่อมเสียทางด้านชู้สาว
- ไม่เป็นผู้ต้องหาร้ายแรงจนศาลพิพากษาจำคุกยกเว้นโทษอันเกิดจากความประมาทหรือโทษสถานเบา(ลหุโทษ)เท่านั้น
- ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือมีหนี้สิน
- มีความประพฤติที่ดี นับถือพุทธศาสนาและเลื่อมใสในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขและมีผู้ปกครองคอยดูแล
- มีอวัยวะขนาดร่างกายที่เหมาะแก่การเป็นตำรวจและทหารและไม่มีโรคตามกฎกระทรวงออกตามความในกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร กฎกระทรวงออกตามในกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติและตามผนวกท้ายระเบียบตามกองทัพไทยว่าด้วยโรงเรียนเตรียมทหาร
- อายุ 16 ปี ควรมีความสูง 158 ซม. หนัก 46 กก. รอบอกขณะหายใจเข้า 76 ซม. หายใจออก 73 ซม.
- อายุ 17 ปี ควรมีความสูง 159 ซม. หนัก 47 กก. รอบอกขณะหายใจเข้า 77 ซม. หายใจออก 74 ซม.
- อายุ 18 ปี ควรมีความสูง 160 ซม. หนัก 48 กก. รอบอกขณะหายใจเข้า 78 ซม. หายใจออก 75 ซม.
ระเบียบการโรงเรียนนายร้อยตำรวจในส่วนวิชาสามัญศึกษา
การวัดผลสำหรับระเบียบการโรงเรียนนายร้อยตำรวจให้ใช้เนื้อหาครอบคลุมความรู้ระดับมัธยมศึกษาที่ 1-4 ตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีการแบ่งออกเป็น 2 รอบในการดำเนินการสอบดังต่อไปนี้
1.การสอบรอบแรก วิชาที่ใช้สอบข้อเขียน ได้แก่
- วิชาวิทยาศาสตร์ 40 ข้อ 200 คะแนน
- วิชาคณิตศาสตร์ 40 ข้อ 200 คะแนน
- วิชาภาษาอังกฤษ 40 ข้อ 200 คะแนน
- วิชาภาษาไทย 20 ข้อ 150 คะแนน
- วิชาสังคมศึกษา 20 ข้อ 150 คะแนน
การคัดเลือกระเบียบการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ คัดจากคะแนนข้อเขียนรวมสูงสุดลงมาตามลำดับ แยกไว้จำนวนหนึ่งแล้วถึงประกาศรายชื่อเพื่อเข้ารอบสองในลำดับถัดไป
2.การสอบรอบที่สอง เป็นการตรวจประวัติและร่างกายโดยการวัดขนาดร่างกาย พร้อมทั้งสอบวิชาพลศึกษาและสัมภาษณ์ในท้ายที่สุด
ระเบียบการโรงเรียนนายร้อยตำรวจในส่วนวิชาพลศึกษา เตรียมพร้อมอย่างไร ?
หลักเกณฑ์ในการสอบผ่านรอบสองมีแค่ สอบได้กับสอบตกเท่านั้นโดยพิจารณาจากผลการทดสอบสมรรถนะของร่างกายผ่านวิชาพลศึกษาจำนวน 8 ข้อด้วยกัน
- ดึงข้อราวเดี่ยว ทำได้ 16 ครั้ง
- ลุกนั่ง 30 วินาที ทำได้ 25 ครั้ง
- นั่งงอตัว ทำได้ 20 ครั้ง
- วิ่งระยะสั้น 50 เมตร ทำเวลาได้ไม่เกิน 6 นาที 5 วินาที
- วิ่งระยะไกล 1,000 เมตร ทำได้ไม่เกิน 3 นาที 22 วินาที ถือว่าได้คะแนนเต็ม
- ว่ายน้ำ 50 เมตร ทำเวลาได้ไม่เกิน 40 วินาที ได้คะแนนเต็ม
- ยืนกระโดดไกล ทำได้ 2 ม. 40 ซม.
- วิ่งกลับตัว ทำได้ภายใน 10 วินาที
คะแนนในแต่ละหมวดอยู่ที่ 50 คะแนน รวมกันทั้งสิ้น 400 คะแนน ผู้ที่สอบได้ตามระเบียบการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ คะแนนขั้นต่ำอยู่ที่ 160 คะแนนหรือคิดเห็นร้อยละ 40 ถึงจะผ่านรอบนี้เข้าไปได้
หมายเหตุ : การวัดผลทางวิชาพลศึกษาไม่มีผลต่อคะแนนข้อเขียนในรอบแรกแต่อย่างได
ข้อห้ามการทดสอบว่ายน้ำและวิ่งระยะไกล
- การสอบว่ายน้ำ
- ห้ามว่ายไม่ถึง 50 เมตร หรือทำเวลาเกิน 1 นาที 20 วินาที ต้องว่ายในลู่ของตัวเอง ห้ามจับ ดึงเส้นแบ่งลู่
- ห้ามใช้เท้าหรืออวัยวะติดพื้นเพื่อพยุงตัวหวังเคลื่อนตัวไปข้างหน้า
- ผู้รับการทดสอบต้องปฏิบัติตามกฎในการปล่อยตัวอย่างเคร่งครัด ไม่ออกตัวก่อนส่งสัญญาณ หากทำตรงกันข้ามทั้ง 2 ครั้ง ถือว่าสอบตก
- การสอบวิ่งระยะไกล
- ห้ามวิ่งได้ไม่ถึง 1,000 เมตรและทำเวลาเกินกว่า 5 นาที 22 วินาที
- อวัยวะทุกส่วนในร่างกายต้องเข้าถึงเส้นชัยตามระยะเวลาที่กำหนด
- ต้องวิ่งในเส้นที่กำหนด
คะแนนเพิ่มพิเศษ รายละเอียดที่ควรทราบ
- นักเรียนที่ผ่านการเรียน รด. ชั้นปีที่ 1 ได้คะแนนเพิ่ม 3 % ของคะแนนเต็ม
- บุตรข้าราชการสังกัดกระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่น้อยกว่า 5 ปีได้คะแนนเพิ่มร้อยละ 2 % ไม่น้อยกว่า 10 ปี ได้คะแนนเพิ่มร้อยละ 3% และไม่น้อยกว่า 15 ปี ได้คะแนนเพิ่มร้อยละ 4%
- ตรของทหารตำรวจปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามโจรผู้ร้ายจนถึงแก่ทุพพลภาพหรือเสียชีวิตซึ่งได้รับการรับรองจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้คะแนนเพิ่มร้อยละ 10 ของคะแนนเต็ม
- บุตรของทหาร ตำรวจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พนักงานและลูกจ้างของรัฐประสบอันตรายจนถึงทุพพลภาพ บาดเจ็บหรือตายในขณะปฏิบัติหน้าที่ทางยุทธการหรือถูกประทุษร้ายเพราะกระทำตามหน้าที่ เพิ่มร้อยละ 10 ของคะแนนเต็ม
- บุตรของทหาร ตำรวจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พนักงานและลูกจ้างของรัฐได้ปฏิบัติหน้าที่ทางยุทธการร่วมกับทหารระหว่างที่มีศึก สงครามหรือมีการประกาศกฎอัยการศึกหรือประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตามกฎหมายหรือในระหว่างเวลาที่ให้นักดำเรือดำน้ำหรือปฏิบัติหน้าที่สำรวจเขตแดนระหว่างประเทศซึ่งมีสิทธินับเวลาราชการเป็นทวีคูณตามกฎหมายว่าด้วยบำเน็จบำนาญข้าราชการเพิ่มให้ร้อยละ 5 ของคะแนนเต็ม
- บุตรของข้าราชการ ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐ พนักงานหรือลูกจ้างรัฐประสบอันตรายถึงทุพพลภาพในขณะปฏิบัติราชการตามปกติหรือโดนประทุษร้าย บาดเจ็บถึงตายเพราะปฏิบัติหน้าที่นั้นได้รับบำเน็จบำนาญพิเศษทางกฎหมายว่าด้วยการบำเน็จบำนาญข้าราชการหรือได้เงินค่าทำขวัญตามข้อบังคับของกระทรวงกลาโหมว่าด้วยคนงานหรือได้รับบำเน็จพิเศษตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเน็จลูกจ้างให้คะแนนเพิ่มร้อยละ 6 ของคะแนนเต็ม
การประกาศผลการสอบคัดเลือก
วิธีการคัดเลือกผู้ผ่านเกณฑ์วัดจากคะแนนข้อเขียนรวมสูงสุดตามลำดับรวมกับคะแนนเพิ่มพิเศษ (ถ้ามี)
- ถ้ามีคะแนนรวมเท่ากัน จะคัดผู้ที่มีคะแนนรวมสูงกว่าและอยู่ในลำดับที่ดีกว่า
- ถ้ามีคะแนนเท่ากันอีกให้เปรียบเทียบวิชาสามัญที่ใช้สอบทุกรายวิชาและถ้ายังมีคะแนนเท่ากันอีกครั้ง ให้ผู้ที่ได้รับเลขลำดับสมัครก่อนเป็นผู้อยู่ในลำดับที่ดีกว่าแล้วถึงจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ผ่านการคัดเลือก จากรอบหนึ่งเข้าสู่รอบสองโดยเรียงตามรหัสประจำตัวสอบ ควรตรวจดูผลการสอบด้วยตัวเองเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเองไว้
จะเห็นได้ว่าเนื้อหาระเบียบการโรงเรียนนายร้อยตำรวจเป็นเรื่องที่สมควรแก่การเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อไม่พลาดเส้นทางสู่การติดยศเป็นนายร้อยตำรวจอันเป็นความฝันและเกียรติสูงสุดของลูกผู้ชายและยิ่งมีการเปิดรับสมัครจำนวนนักเรียนนายร้อยในปี พ.ศ 2563 นั้นยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ระเบียบการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เนื้อหาทั้งหมดในบทความสามารถช่วยผู้ที่สนใจสมัครได้ไม่มากก็น้อย