คุณสมบัติบุคคลพลเรือน ที่ต้องการเข้าเรียนกับโรงเรียนทหารอากาศ

1662
คุณสมบัติบุคคลพลเรือน ที่ต้องการเข้าเรียนกับโรงเรียนทหารอากาศ
คุณสมบัติบุคคลพลเรือน ที่ต้องการเข้าเรียนกับโรงเรียนทหารอากาศ

คุณสมบัติสำหรับคนที่พึ่งจบมัธยมต้น หรือมีวุฒิม.3 อยู่แล้ว

  • โรงเรียนดุริยางค์ทหารอากาศ
    • ผู้สมัครจะต้องมีอายุระหว่าง 15 – 18 ปี มีความสามารถทางดนตรีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ (ส่วนใหญ่จะเป็นด้านวงโยธาวาทิต ดุริยางค์ และเครื่องสาย) ในแต่ละปีจะรับเพศชายจำนวน 15 – 17 คน และเพศหญิงจำนวน 5 คน
    • เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 3 ปีแล้ว จะได้รับวุฒิปวช. ดนตรี และแต่งตั้งยศเป็นจ่าอากาศตรี บรรจุงานตามกองดุริยางค์ทหารอากาศทั่วประเทศ
  • โรงเรียนช่างฝีมือทหาร
    • หน่วยงานภาคปกติจะรับผู้สมัครอายุ 15 – 18 ปี เพศชาย แต่ละปีเปิดรับผู้สมัครประมาณ 250 – 300 คน เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 3 ปี จะได้รับวุฒิปวช. ตามสาขาช่างที่เลือกศึกษา และแต่งตั้งยศเป็นจ่าอากาศตรี บรรจุงานในกองทัพอากาศ กองทัพไทย และกองทัพบก ซึ่งการจะได้บรรจุที่หน่วยงานใดนั้น ขึ้นกับผลคะแนนสอบหรือผลการศึกษาของแต่ละคน
  • โรงเรียนเตรียมทหาร
    • ผู้สมัครจะต้องมีอายุ 15 – 18 ปี เพศชาย แต่ละปีเปิดรับผู้สมัครจำนวน 84 นาย เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 2 ปีจากร.ร.เตรียมทหารแล้ว จะได้รับวุฒิ ม.6 สายวิทย์ – คณิต และเข้าเรียนต่อปริญญาตรีที่โรงเรียนนายเรืออากาศทันทีโดยไม่มีการสอบคัดเลือก เมื่อเรียนจบ 5 ปี จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นเรืออากาศตรี บรรจุทำงานในกองทัพอากาศ ส่วนใหญ่จะได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนการบินกำแพงแสน เพื่อเป็นนักบินของกองทัพอากาศ และมีการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายเพื่อต่อยอดในการฝึกหลักสูตรต่าง ๆ เช่น หน่วยปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด เป็นต้น

หมายเหตุ: นักเรียนนายเรืออากาศชั้นปีที่ 1 ที่มีผลการเรียนดีจะได้รับทุนการศึกษาต่อที่โรงเรียนนายเรืออากาศต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่ ญี่ปุ่น สเปน สหรัฐอเมริกา หรือฝรั่งเศส

คุณสมบัติสำหรับคนที่มีวุฒิ ม.6

  • โรงเรียนจ่าอากาศ
    • ผู้สมัครจะต้องมีอายุระหว่าง 17 – 20 ปี เพศชาย แต่ละปีรับ 393 อัตรา แบ่งเป็นหน่วยพลเรือน 375 อัตรา และทหารกองหนุนที่ปลดจากทหารเกณฑ์ของกองทัพอากาศ 18 อัตรา เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 2 ปี จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นจ่าอากาศตรี บรรจุงานในกองทัพอากาศ
    • หมายเหตุ
      • ทหารกองหนุน จะเลือกได้เฉพาะเหล่าอากาศโยธินกับเหล่าทหารสารวัตรเท่านั้น
      • วุฒิ ม.6 แผนวิทย์ – คณิต เลือกได้ 6 เหล่า คือ เหล่าทหารต้นหน เหล่าทหารช่างอากาศ เหล่าทหารสื่อสาร เหล่าทหารสรรพาวุธ เหล่าทหารอากาศโยธิน และเหล่าทหารสารวัตร
      • วุฒิ ม.6 แผนอื่น เลือกได้ 5 เหล่า คือ เหล่าทหารช่าง เหล่าทหารสื่อสาร เหล่าทหารสรรพาวุธ เหล่าทหารอากาศโยธิน เหล่าทหารสารวัตร
  • วิทยาลัยพยาบาลทหารอากาศ
    • คุณสมบัติของผู้สมัคร คือ จบ ม.6 แผนวิทย์ – คณิต เป็นชาย-หญิง สถานภาพโสด มีอายุระหว่าง 17 – 22 ปี เพศหญิงต้องสูงไม่ต่ำกว่า 155 เซนติเมตร น้ำหนัก 40 – 65 กิโลกรัม เพศชายจะต้องสูงไม่ต่ำกว่า 161 เซนติเมตร หนักไม่น้อยกว่า 49 กิโลกรัม ไม่มีรอยสักบนร่างกาย
      • หากต้องการได้ยศเรืออากาศตรี จะต้องสมัครในส่วนทุนกองทัพอากาศ ซึ่งแต่ละปีจะรับเพศหญิงจำนวน 30 คน เพศชายจำนวน 6 คน
      • สำหรับคนที่เรียนโดยทุนของตัวเอง เมื่อจบแล้วจะไม่มีข้อผูกมัดกับทางราชการ และจะไม่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการทหาร ซึ่งเงื่อนไขนี้รับเฉพาะเพศหญิงจำนวน 20 คน อย่างไรก็ตามคนที่เรียนด้วยทุนตัวเองจะได้รับการพิจารณาเป็นอันดับแรกเมื่อกองทัพอากาศต้องการกำลังพล หรือบางครั้งก็กำหนดโควตาเฉพาะอีกด้วย สำหรับการคัดเลือกจะใช้วิธีการยื่นคะแนน o-net gat และ pat 2 เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 4 ปี จะได้รับวุฒิ ป.ตรี พยาบาลศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล สามารถนำไปใช้สอบใบประกอบวิชาชีพได้ สำหรับคนที่ต้องใช้ทุนกองทัพอากาศจะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นเรืออากาศตรี / เรืออากาศตรีหญิง บรรจุงานตามโรงพยาบาลทหารในส่วนของกองทัพอากาศ
  • วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
    • คุณสมบัติของผู้สมัคร คือ จบ ม.6 สายวิทย์ – คณิต เป็นชาย – หญิง สถานภาพโสด อายุไม่เกิน 20 ปี เพศชายสูงไม่ต่ำกว่า 160 เซนติเมตร เพศหญิงสูงไม่ต่ำกว่า 150 เซนติเมตร
      • หากต้องการจะได้รับการติดยศร้อยตรี จะต้องสมัครในส่วนของทุนกองทัพบก (รับเฉพาะเพศชาย) โดยรับจำนวนปีละ 20 คน ส่วนทุนส่วนตัวรับจำนวน 80 คน (ชาย 40 หญิง 40) เมื่อจบการศึกษาอาจได้รับการแต่งตั้งยศของโควตาเหล่าทัพต่าง ๆ แต่ถ้าเรียนเก่ง ทำคะแนนได้อยู่ในลำดับตามโควตาที่กำหนด ก็จะได้รับการติดยศทันที (มีทั้ง ทบ. ทร. ทอ.)
      • สำหรับการคัดเลือกจะใช้วิธีการยื่นคะแนนเหมือนเข้าคณะแพทย์ทั่วไป (แต่ต้องยื่น สมัครกับ วพม. ด้วย) เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 6 ปี จะได้รับวุฒิ ป.ตรี แพทยศาสตรบัณฑิต
  • สอบบรรจุชั้นประทวน (จ่าอากาศตรี) ตามปีงบประมาณ
    • ผู้สมัครจะต้องมีอายุระหว่าง 18 – 30 ปี รับทั้งเพศชายและหญิง ตำแหน่งที่รับสมัครเป็นประจำ คือ เสมียน เจ้าหน้าที่สารวัตร เจ้าหน้าที่กำลังพล เจ้าหน้าที่นิรภัย เจ้าหน้าที่วัสดุ และจะรับสมัครช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ของทุกปี สามารถตามข่าวสารได้จากกรมกำลังพลทหารอากาศ

คุณสมบัติสำหรับคนที่มีวุฒิ ปวช.

  • โรงเรียนจ่าอากาศ
    • ผู้สมัครจะต้องมีอายุระหว่าง 17 – 20 ปี โดยจะรับเพศชาย จำนวน 393 อัตรา แบ่งเป็นฝ่ายพลเรือน 375 อัตรา และฝ่ายทหารกองหนุนที่ปลดจากทหารเกณฑ์ของกองทัพอากาศ 18 อัตรา เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร 2 ปี จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นจ่าอากาศตรี บรรจุงานในกองทัพอากาศ
    • หมายเหตุ ทหารกองหนุน จะเลือกได้เฉพาะเหล่าอากาศโยธินและเหล่าทหารสารวัตรเท่านั้น โดยวุฒิ ปวช. เลือกได้ 5 เหล่า คือ เหล่าทหารช่างอากาศ เหล่าทหารสื่อสาร เหล่าทหารสรรพาวุธ เหล่าทหารอากาศโยธิน เหล่าทหารสารวัตร
  • สอบบรรจุชั้นประทวน (จ่าอากาศตรี) ตามปีงบประมาณ
    • ผู้สมัครจะต้องมีอายุระหว่าง 18 – 30 ปี รับทั้งเพศชายและหญิง สำหรับสาขาที่รับสมัครเป็นประจำ คือ บัญชี การเงิน การธนาคาร ยานยนต์ ไฟฟ้า สำรวจ เขียนแบบ อิเล็กทรอนิกส์ ก่อสร้าง คอมพิวเตอร์ และถ่ายภาพ และจะรับสมัครช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ของทุกปี สามารถตามข่าวสารได้จากกรมกำลังพลทหารอากาศ

คุณสมบัติสำหรับคนที่มีวุฒิ ป.ตรี

  • สอบบรรจุชั้นสัญญาบัตร (เรืออากาศตรี) ตามปีงบประมาณ
    • ผู้สมัครจะต้องมีอายุระหว่าง 18 – 35 ปี รับทั้งเพศชายและหญิง สำหรับสาขาที่เปิดรับสมัครเป็นประจำ คือ บัญชี การเงิน การธนาคาร คอมพิวเตอร์ ไฟฟ้า เครื่องกล อิเล็กทรอนิกส์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ สถาปัตยกรรมบรรณารักษ์ สถิติ กายภาพบำบัด สังคมสงเคราะห์ นิติศาสตร์ สาธารณสุข ภาษาอังกฤษ รัฐศาสตร์/รัฐประศาสนศาสตร์สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พุทธศาสตรบัณฑิต /เปรียญธรรม9 สำหรับการรับสมัครจะอยู่ช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ของทุกปี สามารถตามข่าวสารได้จากกรมกำลังพลทหารอากาศ

*นอกจากนี้ยังมีการรับบุคคลทางด้านการแพทย์โดยตรงจากกรมแพทย์ทหารอากาศ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง เภสัชกร เทคนิคการแพทย์ หรือแพทย์สาขาต่าง ๆ