1.โรงเรียนจ่าอากาศ คือ
โรงเรียนจ่าอากาศ คือ สถาบันการศึกษาหลักขั้นต้นของ กองทัพอากาศ มีหน้าที่ผลิตนายทหารประทวนให้กับส่วนราชการต่างๆ ของกองทัพอากาศ และอาจะจะมีนอกกองทัพอากาศที่ฝากผลิตเป็นครั้งคราว ตลอดจนให้การศึกษาอบรมข้าราชการกลาโหมพลเรือนต่ำกว่าชั้นสัญญาบัตรทั้งในและนอกกองทัพอากาศตามแต่กองทัพอากาศจะกำหนดไป
2.ประวัติการจัดตั้ง โรงเรียนจ่าอากาศ
โรงเรียนจ่าอากาศ แต่เดิมนั้นกองทัพอากาศนั้นไม่มีโรงเรียนผลิตนายทหารประทวน ส่วนใหญ่นายทหารประทวน จะได้มาจากทหารกองประจำการที่ทำการสมัครเข้ารับราชการต่อ แต่งตั้งยศเป็นจ่าอากาศ เมื่อปฏิบัติงานมีความรู้ มีความสามารถ ความชำนาญงานสูงขึ้น ก็จะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง เลื่อนยศให้สูงขึ้นตามลำดับ จนขึ้นมาเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร
ในช่วงปี พ.ศ.2481 นั้นกองทัพอากาศได้กำหนดให้มี แผนกอาวุธ กองโรงเรียนการบิน และมีแผนกโรงเรียน โดยจะเป็นหน่วยขึ้นตรงกับกรมเสนาธิการทหารอากาศ แบ่งกิจการ และกำหนดหน้าที่แผนกโรงเรียน ดังนี้
- กองศึกษาที่ 1 มีหน้าที่อบรมนายทหารสัญญาบัตร ทุกจำพวก
- กองศึกษาที่ 2 มีหน้าที่อบรมนายทหารประทวน ทุกจำพวก
- กองโรงเรียนจ่าอากาศทหารราบ มีหน้าที่อบรมผู้บังคับหมู่ทหารราบ
ต่อมาในปี พ.ศ.2483 เกิดกรณีพิพาทจาดอินโดจีน กองทัพอากาศได้ประสบเหตุการณ์รบอย่างแท้จริง จึงเล็งเห็นความสำคัญในด้านการศึกษาขึ้นมาว่า ทหารจำเป็นต้องมีความรู้ในหลักวิชาเพื่อสามารถนำไปใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง กองทัพอากาศจึงจะมีประสิทธิภาพด้านการรบมากขึ้น และหากจะใช้แต่ความกล้าหาญ ความชำนาญการรบ ย่อมไม่เป็นการเพียงพอ และอาจจะก่อให้เกิดเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการปฏิบัติการรบได้จากแนวความคิดในด้านการศึกษาดังกล่าว กองทัพอากาศจึงได้เริ่มดำเนินการเพื่อวางรากฐานโครงการศึกษาของกองทัพอากาศขึ้น
หลังจากนั้นในปี พ .ศ.2491 ก็ได้กำหนดให้ใช้อัตรากองทัพอากาศ พ.ศ.2491 ตามคำสั่งกระทรวง กลาโหม (พิเศษ) ที่ 49/19127 แผนกโรงเรียน เปลี่ยนฐานะเป็น กรมยุทธศึกษาทหารอากาศ โดยขึ้นตรงต่อกองทัพอากาศ เริ่มบริหารงานตามอัตราใหม่ขึ้น ตั้งแต่ 7 มกราคม 2492 ซึ่งถือเป็นวันเปิดประชุมสภากองทัพอากาศครั้งแรก ได้มีการรวมแผนกโรงเรียนต่างๆ ของกองทัพอากาศ เป็นหน่วยขึ้นตรงต่อกรมยุทธศึกษาทหารอากาศ ดังนี้
- โรงเรียนฝึกการช่างอากาศ ของกองโรงงานกรมทหารอากาศ
- โรงเรียนสื่อสาร ของแผนกสื่อสาร กรมเสนาธิการทหารอากาศ
- กองโรงเรียนจ่าอากาศทหารราบ
3.วิสัยทัศน์ โรงเรียนจ่าอากาศ
วิสัยทัศน์ โรงเรียนจ่าอากาศ มีดังนี้
“เป็นสถาบันผลิตนายทหารประทวนหลักที่มีสมรรถนะเพื่อตอบสนองการเป็น กองทัพอากาศชั้นนำในภูมิภาค”
4.ปรัชญา โรงเรียนจ่าอากาศ
ปรัชญา โรงเรียนจ่าอากาศ มีดังนี้
“ทักษะดี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม น้อมนำพระราชดำริ มีจิตอาสา”
5.คำขวัญ โรงเรียนจ่าอากาศ
คำขวัญ โรงเรียนจ่าอากาศ มีดังนี้
” จ่าอากาศ คือ หัวใจของกองทัพ “
6.ปณิธาน โรงเรียนจ่าอากาศ
ปณิธาน โรงเรียนจ่าอากาศ มีดังนี้
ผลิตจ่าอากาศที่มีวินัย รับผิดชอบต่อหน้าที่ สามารถปฏิบัติงานตอบสนองภารกิจของ กองทัพอากาศ
7.อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ โรงเรียนจ่าอากาศ
อัตลักษณ์ โรงเรียนจ่าอากาศ มีดังนี้
- อัตลักษณ์
- “มีความรู้สนับสนุนด้านการบิน เคร่งครัดวินัย เชิดชูคุณธรรม ก้าวทันเทคโนโลยี”
- เอกลักษณ์
- “แหล่งผลิตจ่าอากาศที่เป็นหัวใจของกองทัพอากาศ”
8.โครงสร้างหน่วยโรงเรียนจ่าอากาศ
- กองบังคับการ
- กองการศึกษา
- กองการฝึก
- กองนักเรียน
- กองบริการ
- แผนกการเงิน
9.หลักสูตรการเป็นจ่าอากาศ
หลักสูตรการเป็นจ่าอากาศนั้น จะมีหลักสูตรการเรียนการสอนสำหรับการสร้างกำลังทหารในระดับชั้นประทวนให้กับกองทัพอากาศ โดยผ่านการฝึกจาก โรงเรียนจ่าอากาศ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ผลิตนายทหารชั้นประทวนให้แก่กองทัพอากาศ โดยการศึกษานักเรียนจ่าอากาศ (นจอ.) จะมี 3 หลักสูตร ดังนี้
- หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพโรงเรียนจ่าอากาศ 3 ปีสำหรับนักเรียนที่สอบหลังจบม.3
- หลักสูตรโรงเรียนจ่าอากาศ 2 ปี สำหรับนักเรียนที่สอบหลังจบม.6/ปวช.
- หลักสูตรประกาศนียบัตรพยาบาลศาสตร์ระดับต้น 2 ปี สำหรับนักเรียนที่สอบหลังจบ ม.6
10. สิทธิประโยชน์ต่างๆ ขณะที่เป็นนักเรียนจ่าอากาศ
สิทธิประโยชน์ต่างๆ ขณะที่เป็นนักเรียนจ่าอากาศจะมีทั้งหมด ดังนี้
- ได้รับจ่ายสิ่งของจากราชการตามอัตราจ่ายที่ทางราชการกำหนด
- ได้รับเบี้ยเลี้ยงวันละ 75 บาท (เบี้ยเลี้ยงกรณีไปราชการนอกที่ตั้งปกติวันละ 94.- บาท)
- ได้รับเงินเดือนตามพระราชกฤษฎีกา การปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการทหารกองประจำการและนักเรียนทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2554 ดังนี้
- หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพโรงเรียนจ่าอากาศ
- ชั้นปีที่ 1 รับเงินเดือน พ.1/10 เดือนละ 2,610 บาท
- ชั้นปีที่ 2 รับเงินเดือน พ.1/12 เดือนละ 2,890 บาท
- ชั้นปีที่ 3 รับเงินเดือน พ.1/13 เดือนละ 3,070 บาท
- หลักสูตรประกาศนียบัตรพยาบาลศาสตร์ ระดับต้น
- ชั้นปีที่ 1 รับเงินเดือน พ.1/13 เดือนละ 3,070 บาท
- ชั้นปีที่ 2 รับเงินเดือน พ.1/14 เดือนละ 3,270 บาท
- หลักสูตรโรงเรียนจ่าอากาศ
- ชั้นปีที่ 1 รับเงินเดือน พ.1/13 เดือนละ 3,070 บาท
- ชั้นปีที่ 2 รับเงินเดือน พ.1/14 เดือนละ 3,270 บาท
- โรงเรียนจ่าอากาศประกอบเลี้ยงอาหารทุกวัน วันละ 3มื้อ โดยใช้เงินเบี้ยเลี้ยงบางส่วนเป็นค่าอาหาร
- ได้รับสิทธิ์ในการคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนทุน กองทัพอากาศ ศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมทหาร ในส่วนกองทัพอากาศ ตามหลักเกณฑ์ที่กองทัพอากาศกำหนด (อายุไม่เกิน 17 ปีบริบูรณ์ ในปีที่สมัครเป็นนักเรียนจ่าอากาศ = เฉพาะผู้สอบวุฒิม.3)
11.สิทธิประโยชน์เมื่อสำเร็จการศึกษา โรงเรียนจ่าอากาศ
โรงเรียนจ่าอากาศนักเรียนที่ทำการผลิตเหล่าทหารจ่าอากาศนั้น หลังจากสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรต่างๆของโรงเรียนก็จะได้รับการบรรจุเข้ารับราชการและแต่งตั้งยศเป็นจ่าอากาศตรี ทั้งยังได้รับเงินเดือนตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการทหารและการได้รับเงินเดือน พ.ศ.2549 ดังนี้
- สำเร็จหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพโรงเรียนจ่าอากาศ (วุฒิ ม.3) ศึกษา 3 ปี รับเงินเดือนเดือนละ 6,140 บาท
- สำเร็จหลักสูตรประกาศนียบัตรพยาบาลศาสตร์ ระดับต้น (วุฒิ ม.6) ศึกษา 2 ปี รับเงินเดือนเดือนละ 6,800 บาท
- สำเร็จหลักสูตรโรงเรียนจ่าอากาศ (วุฒิ ม.6 หรือเทียบเท่า) ศึกษา 2 ปี รับเงินเดือนเดือนละ 6,800 บาท
- สำเร็จหลักสูตรโรงเรียนจ่าอากาศ (วุฒิ ปวช.หรือเทียบเท่า) ศึกษา 2 ปี รับเงินเดือนเดือนละ 7,460 บาท
อัตราเงินเดือนดังกล่าว จะเป็นไปตามบัญชีอัตราเงินเดือนข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ท้ายพระราชกฤษฎีกาการปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการฯ
12.ความก้าวหน้าในอาชีพของจ่าอากาศ
ความก้าวหน้าในอาชีพของจ่าอากาศจะมีมากมาย ดังนี้
- การศึกษา, ฝึกงาน หรือดูงานทั้งในและต่างประเทศผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนจ่าอากาศทุกเหล่าทหาร เมื่อรับราชการครบ 2 ปี จะมีสิทธิ์สมัครสอบคัดเลือกไปศึกษา ฝึกงาน หรือดูงานต่างๆเพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศ ด้วยเงื่อยไขจะเป็นไปตามที่ทางราชการกำหนด
- เลื่อนฐานะตัวผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนจ่าอากาศ เมื่อมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ทางราชการกำหนดมีสิทธิ์สอบเลื่อนฐานะเป็นนายทหารสัญญาบัตร ตามความต้องการบรรจุกำลังพลในแต่ละปี (ครองยศพันจ่าอากาศเอก มีอายุ 36-39 ปี) แถมยังมีสิทธิเข้าสอบแข่งกับบุคคลพลเรือนในการสอบของบุคคลภายนอกประจำปีงบประมาณด้วย
13.การหมดสิทธิ์
ผู้หมดสิทธิ์ในการสมัครสอบเป็นนักเรียนจ่าอากาศ จะมีดังนี้
- ผู้ซึ่งขาดคุณสมบัติด้านขนาดพิกัดความสมบูรณ์ของร่างกายไม่ได้ตามเกณฑ์
- หลักฐานเอกสารอย่างใดอย่างหนึ่งไม่สมบูรณ์ หรือเป็นเท็จ
ผู้หมดสิทธิ์ในการสอบวิชาการ จะมีดังนี้
- ผู้ที่ทุจริต หรือ ส่อเจตนาทุจริตในเวลาสอบ
- ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อห้ามต่าง ๆ ดังนี้
- เข้าสอบช้ากว่ากำหนดเวลาที่เริ่มต้นสอบเกิน 20 นาที หมดสิทธิ์เข้าห้องสอบ
- ห้ามนำเอกสาร เครื่องเขียน อุปกรณ์การคำนวณ และเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดเข้าห้องสอบ
- ห้ามเปิดปัญหาสอบจนกว่าจะได้รับคำสั่ง
- ห้ามพูดคุย หรือปรึกษา หากสงสัยให้ยกมือถามกรรมการเท่านั้น
- ห้ามออกจากห้องสอบก่อนเวลาที่คณะกรรมการคุมสอบกำหนด
- ห้ามนำปัญหาสอบและใบคำตอบออกนอกห้องสอบ
ผู้หมดสิทธิ์ในการทำสัญญาเข้าเป็นนักเรียนจ่าอากาศ จะมีดังนี้
- ผู้ปกครอง หรือผู้ค้ำประกันผู้ปกครอง ขาดคุณสมบัติ
- ผู้ที่ไม่ไปทำสัญญาตามวัน เวลา ที่กำหนด
ผู้ที่ไม่ไปรายงานตัวเข้าเป็นนักเรียนจ่าอากาศ ในวันที่ระบุเอาไว้
14.สัญลักษณ์ โรงเรียนจ่าอากาศ
โรงเรียนจ่าอากาศ มีธงประจำโรงเรียนจ่าอากาศอยู่ โดยเดิมเป็นสีเทา มีตราโรงเรียนจ่าอากาศอยู่ตรงกลาง แตในปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นพื้นสีเขียวขลิบด้วยสีแสด มีตราโรงเรียนจ่าอากาศอยู่ตรงกลาง
สีประจำโรงเรียนจ่าอากาศจะมีอยู่ 2 สี ดังนี้
- สีเขียว หมายถึง วันสถาปนาเป็นโรงเรียนจ่าอากาศ ซึ่งตรงกับวันพุธที่ 24 ธันวาคม 2495 (วันพุธ แทนด้วย สีเขียว)
- สีแสด หมายถึง หน่วยการศึกษา ซึ่งจำเป็นจะต้องมีครูเป็นผู้ถ่ายทอดและประสาทวิชาให้แก่ผู้เข้ารับการศึกษา (วันครู ตรงกับวัน พฤหัสบดี แทนด้วยสีแสด)
15.ตราสัญลักษณ์ โรงเรียนจ่าอากาศ
ตราสัญลักษณ์ โรงเรียนจ่าอากาศ จะเป็นรูปอาร์มมีเส้นขอบเป็นสีน้ำเงินเข้ม พื้นของอาร์มสีฟ้าอ่อน ภายในอาร์มมีรูปวงกลมสีน้ำเงินภายในวงกลมมีช่อชัยพฤกษ์สีทอง เหนือช่อชัยพฤกษ์ และมีรูปดาวสีทองทับอยู่บนวงกลม 3 วงสีขาว ค่อนมาทางปลายคบเพลิง ซ้ายขวามีรูปปีกสีทอง ใต้วงกลมมีแถบสีเหลืองเส้นขอบสีน้ำเงิน ทั้งยังมีตัวอักษรสีดำเขียนคำว่า “โรงเรียนจ่าอากาศ” อยู่ตรงกลาง โดยมีความหมายของภาพและสี ดังนี้
- รูปอาร์ม ปฏิบัติตามระเบียบ ทอ.ว่าด้วยสัญลักษณ์หน่วย พ.ศ.2541
- พื้นสีฟ้าอ่อน หมายถึง กองทัพอากาศ (ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยธง พ.ศ.2522)
- วงกลมพื้นสีน้ำเงิน หมายถึง ความเป็นทหารอากาศ
- ปีกและช่อชัยพฤกษ์สีทอง หมายถึง เครื่องหมายราชการกองทัพอากาศ
- ดาวสีทอง หมายถึง สถานศึกษาหน่วยหนึ่งของ ยศ.ทอ.
- คบเพลิงสีทอง หมายถึง การศึกษาทำให้เกิดปัญญาเปรียบเสมือนแสงสว่าง
- วงกลมสีขาว หมายถึง การศึกษาที่ไม่หยุดนิ่ง
- แถบสีเหลืองมีข้อความ “โรงเรียนจ่าอากาศ” แสดงชื่อหน่วย
16.คุณสมบัติของผู้สมัครที่ต้องการเข้าเป็นนักเรียนจ่าอากาศ
คุณสมบัติของต้องการสมัครสอบเข้านักเรียนจ่าอากาศ จะมีดังนี้
- เป็นชายโสด อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี และไม่เกิน 20 ปี ในปีที่จะเข้าเป็นนักเรียนจ่าอากาศ (นับตามปี พ.ศ.)
- คุณวุฒิของผู้สมัคร
- มัธยมศึกษาตอนปลาย ของกระทรวงศึกษาธิการ หรือเทียบเท่า สำเร็จการศึกษาก่อนปีการศึกษา 2556 มีผลการเรียนเฉลี่ยตลอดหลักสูตรไม่ต่ากว่า 2.00
- กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนสุดท้ายของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว ต้องมีผลการเรียนเฉลี่ยรวม (สัดส่วนผลการเรียนและผลการเรียนระดับชาติ) ไม่ต่ำกว่า 2.00
- ประกาศนียบัตรวิชาชีพ มีระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม ไม่ต่ากว่า 2.00 หรือ ผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ ในภาคเรียนที่ 6 ของหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ที่เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว ต้องมีระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ากว่า 2.00
- มีสัญชาติไทย และบิดามารดามีสัญชาติไทยโดยการเกิด (เกิดในประเทศไทย) ถ้าบิดาเป็นนายทหารสัญญาบัตรหรือนายทหารประทวน ซึ่งมีสัญชาติไทยโดยการเกิดแล้ว มารดาจะมิใช่ผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดก็ได้
- มีอวัยวะรูปร่าง ลักษณะท่าทาง ขนาดร่างกาย เหมาะสมแก่การเป็นทหาร ไม่เป็นโรค และความพิการของร่างกาย
สามารถติดตาม ประกาศรับสมัครนักเรียนจ่าอากาศ ทางอินเทอร์เน็ต ที่เว็บไซต์ www.atts.ac.th
17. กลุ่มสมัครสอบ โรงเรียนจ่าอากาศ
กลุ่มสมัครสอบ โรงเรียนจ่าอากาศ เป็นสิ่งจำเป็นโดยตัวผู้สมัครสอบเข้าเป็นนักเรียนจ่าอากาศนั้น จะต้องเลือกกลุ่มสมัครสอบ (ตามคุณวุฒิ) ตามจำานวนนักเรียนจ่าอากาศที่เข้ารับการศึกษา และเหล่าทหาร ที่เปิดรับสมัครในแต่ละปี เช่น
- จบ ม.6 สายวิทย์-คณิต สามารถเลือกเหล่า ต้นหนและอุตุ
- จบ ปวช. กศน. สามารถเลือกเหล่า อากาศโยธินและสารวัตร
18.การทดสอบของ โรงเรียนจ่าอากาศ
การทดสอบของ โรงเรียนจ่าอากาศ จะแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน ดังนี้
- ขั้นตอนแรก การสอบภาควิชาการ (700 คะแนน ) จะประกอบไปด้วย
- คณิตศาสตร์ 200 คะแนน
- วิทยาศาสตร์ 200 คะแนน
- ภาษาอังกฤษ 175 คะแนน
- ภาษาไทยและสังคม 125 คะแนน
- ขั้นตอนที่สอง สำหรับผู้ที่ผ่านรอบวิชาการ
- สอบความถนัดและวิภาววิสัย 100 คะแนน
- สอบสัมภาษณ์ 100 คะแนน
- สอบพละศึกษา 100 คะแนน
- วิ่ง 1,000 เมตร ว่ายน้ำ 50 เมตร ดึงข้อ ลุกนั่ง ยืนกระโดดไกล เป็นต้น
19.หน้าที่ของทหารเหล่าต่างๆ ในกองทัพอากาศ
หน้าที่ของทหารเหล่าต่างๆ ในกองทัพอากาศ จะมีทั้งหมด 23 เหล่า ดังนี้
- เหล่าทหารนักบิน มีหน้าที่เป็นนักบินประเภทต่างๆ เช่นนักบินขับไล่ นักบินโจมตี นักบินตรวจการณ์และนักบินทิ้งระเบิด การขนส่งทางอากาศ การลาดตะเวนทางอากาศ หรือ ภาระกิจทางอากาศอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือหรือสนับสนุนหน่วยทหารพื้นดิน
- เหล่าทหารต้นหน มีหน้าที่เกี่ยวกับการเดินอากาศ แนะนำนักบินในเรื่องทิศทางการบิน ประสานกับหอบังคับการบินในขณะที่บินอยู่ในอากาศ
- เหล่าทหารตรวจการณ์ ทำหน้าที่เกี่ยวกับการตรวจการณ์ทั้งทางอากาศ และ ทางพื้นดิน การลาดตะเวนทางอากาศเพื่อแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบถึงสถานการณ์
- เหล่าทิ้งระเบิด ทำหน้าที่เกี่ยวกับการทิ้งระเบิด เพื่อทำลายเป้าหมายทางพื้นดิน ตามภารกิจที่ผู้บังคับบัญชากำหนด
- เหล่าทหารสื่อสาร ทำหน้าที่รับผิดชอบในการจัดหา เก็บรักษา เบิกจ่าย ค้นคว้า สร้างซ่อมตรวจ และ ทดลองให้คำแนะนำเรื่องเกี่ยวกับการสื่อสาร เครื่องมือเครื่องใช้ในการสื่อสาร ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่ในการสื่อสาร
- เหล่าทหารสรรพาวุธ ทำหน้าที่รับผิดชอบในการจัดหา เก็บรักษา เบิกจ่าย ค้นคว้า สร้าง ซ่อมตรวจ และ ทดลอง กับให้คำแนะนำเกี่ยวกับการสรรพาวุธ เครื่องมือเครื่องใช้การสรรพาวุธ ตลอดจนถึงสงครามเคมี ชีวะ เชื้อโรคและปรมาณู
- เหล่าทหารอากาศโยธิน ทำหน้าที่รบเพื่อป้องกันสนามบิน สถานที่สำคัญของกองทัพอากาศจากการรุกรานทางพื้นดิน ทางอากาศโดยร่วมกำลังทางอากาศและทางอื่น ๆ
- เหล่าทหารขนส่ง ทำหน้าที่เกี่ยวกับการขนส่ง รับผิดชอบในการจัดหา เก็บรักษาเบิกจ่าย เครื่องอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในการขนส่งให้แก่หน่วยต่าง ๆ ในกองทัพอากาศอยู่เสมอ
- เหล่าทหารสารวัตร ทำหน้าที่ตรวจตรา ควบคุม ข้าราชการกองทัพอากาศ ให้อยู่ในระเบียบวินัยของทหารกับมีหน้าที่รักษาความสงบ รักษาความปลอดภัยให้แก่บุคคลและสถานที่ราชการกองทัพอากาศ
- เหล่าทหารช่างอากาศ ทำหน้าที่ในการจัดหา เก็บรักษา เบิกจ่ายและซ่อมเครื่องมือ เครื่องยนต์อุปกรณ์การบินต่าง ๆ ของกองทัพอากาศ
- เหล่าทหารพลาธิการ ทำหน้าที่ในการจัดหา เก็บรักษา เบิกจ่าย เครื่องอุปโภคบริโภค กับการสัมภาระทั้งปวง ตลอดจนเครื่องมือเครื่องใช้ให้แก่หน่วยต่าง ๆ ตามนโยบายกองทัพอากาศ
- เหล่าทหารช่างโยธา ทำหน้าที่ในการซ่อมสร้างสนามบิน ถนน อาคาร การไฟฟ้า ประปา ให้ใช้ได้ดีอยู่เสมอ ตลอดจนการจัดหา เก็บรักษา เบิกจ่าย เครื่องมือเครื่องใช้ในการนี้ให้แก่หน่วยต่าง ๆ และให้เป็นไปตามนโยบายกองทัพอากาศ
- เหล่าทหารแผนที่ ทำหน้าที่เกี่ยวกับการทำแผนที่ การสำรวจเส้นทาง การแก้ไข เพิ่มเติมรายละเอียดของตำบลต่าง ๆ ในแผนที่ให้ถูกต้องตามกาลสมัยอยู่เสมอ
- เหล่าทหารอุตุนิยมวิทยา ทำหน้าที่เกี่ยวกับการอุตุนิยมวิทยา การพยากรณ์อากาศเกี่ยวกับการบิน
- เหล่าถ่ายรูป ทำหน้าที่เกี่ยวกับการถ่ายรูปทั้งทางพื้นดินและทางอากาศ
- เหล่าทหารการเงิน ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเงิน การบัญชี การงบประมาณ การตรวจเงิน ตลอดจนการตรวจสอบ ควบคุมการจ่ายเงินให้เป็นไปตามแบบธรรมเนียมของทางราชการ
- เหล่าพระธรรมนูญ ทำหน้าที่ทางกฎหมายและศาลทหาร
- เหล่าทหารดุริยางค์ ทำหน้าที่เกี่ยวกับการดุริยางค์ การบรรเลงเพื่อกล่อมขวัญทหารของ กองทัพอากาศ
- เหล่าทหารสารบรรณ ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานสารบรรณและงานธุรการทั่วไปในกองทัพอากาศ
- เหล่าทหารแพทย์ ทำหน้าที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ค้นคว้าในด้านการแพทย์ วางนโยบายการสุขาภิบาล รับผิดชอบในการจัดหา เก็บรักษา เบิกจ่ายเครื่องเวชภัณฑ์ต่าง ๆ
- เหล่าทหารพลร่ม ทำหน้าที่เกี่ยวกับการรบพิเศษ การรบแบบกองโจร การช่วยเหลือค้นหาเมื่อมี บ. อุบัติเหตุ
- เหล่าทหารพัสดุ ทำหน้าที่เกี่ยวกับพัสดุ การจัดหา เก็บรักษา แจกจ่ายพัสดุต่าง ๆ ให้กับหน่วยในกองทัพอากาศ เช่น อะไหล่ บ.
- เหล่าทหารวิทยาศาสตร์ มีหน้าที่วางแผนอำนวยการ ประสานงาน ให้การศึกษาวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการสร้างอาวุธยุทธภัณฑ์ที่สำคัญ ซึ่งต้องใช้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี่สูงดำเนินการเกี่ยวกับ เคมี ชีวะ รังสี และกิจการวิทยาศาสตร์ การใช้เครื่องจักรคำนวณสนับสนุนในการวิจัยระบบอาวุธยุทธภัณฑ์ การส่งกำลังบำรุงและการบริหารงานของกองทัพอากาศให้การสนับสนุนแก่สถานวิจัยของส่วนราชการ และหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อนำผลมาใช้ในการสร้างอาวุธยุทธภัณฑ์ ประสานงานกับโรงงานอุตสาหกรรมของส่วนราชการ และหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อประโยชน์ในการสร้างอาวุธยุทธภัณฑ์ กับมีหน้าที่ในการศึกษาและควบคุมตรวจตรากิจการในสายวิทยาการเหล่าทหารวิทยาศาสตร์
20.สโมสรโรงเรียนจ่าอากาศ
สโมสรโรงเรียนจ่าอากาศ เป็น สโมสรฟุตบอลในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เรียกได้ว่าเป็นตัวแทนทีมฟุตบอลของโรงเรียนจ่าอากาศ ปัจจุบันลงแข่งขันในระดับไทยแลนด์ อเมเจอร์ลีก โดยสโมสรเคยเข้าร่วมการแข่งขัน ไทยลีกดิวิชัน 1 ในปี 2550 ก่อนที่จะตกชั้นมาเล่นใน ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน
ขอบคุณภาพจาก : กองทัพอากาศไทย