1.กองทัพบกไทย คือ
กองทัพบกไทย (Royal Thai Army) ถือว่าเป็นเหล่าทัพที่มีประวัติความเป็นมายาวนานที่สุด และยังมีขนาดใหญ่ที่สุดของกองทัพไทย จึงเป็นเหตุให้มีการเปิดรับสมัครทหารบก อยู่บ่อยครั้ง โดยตัวกองทัพบกไทยนั้นจะมีหน้าที่เตรียมกำลังทางบก และป้องกันราชอาณาจักรไทย
2.ประวัติ กองทัพบกไทย
กองทัพบกนั้นถือได้ว่ากำเนิดขึ้นพร้อมกับการก่อต้องชาติไทยเลยก็ว่าได้ โดยวิวัฒนาการขอกองทัพบกจะเริ่มตั้งแต่ชนเผ่าไทยได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานและรวมกลุ่มขึ้นเป็นนครรัฐเล็กๆ ในดินแดนของประเทศไทยปัจจุบันและบริเวณใกล้เคียง ทั้งยังมีการจัดกำลังกองทัพเพื่อทำสงครามกับชนชาติต่างๆที่เข้ามารุกราน จนกระทั่งได้ขยายอาณาเขตและก่อตั้งสถาปราอาณาจักรไทยขึ้นมา และได้มีการพัฒนาทางด้านการทหารมาตลอดอย่างต่อเนื่องโดยบอกเล่าออกไป 4 ช่วงสมัย ดังนี้
ช่วงสมัยกรุงสุโขทัย (พ.ศ. 1800- 1981) เป็นช่วงที่อาณาเขตของไทยนั้นถูกแผ่กระจายออกไปอย่างกว่างขวาง โดยเฉพาะในช่วงสมัยของพ่อขุนรามคำแหง โดยท่านได้ทรงดูแลราษฎรอย่างใกล้ชิด เสมือนบิดาดูแลบัตร หากในยามปกตินั้นราษฎจะต่างประกอบอาชีพกันเป็นปกติ แต่เมื่อเกิดสงครามชายฉกรรจ์ทุกคนจะต้องมารับใช้ประเทศชาติโดยการเปิดนทหาร
ช่วงสมัยอยุธยา (พ.ศ. 1983 – 2310) ในช่วงสมัยนี้นั้นได้มีการปรับปรุงด้านการควบคุมกองกำลังไพร่พล และยุทธิวิธีให้รัดกุมมากยิ้งขึ้น โดยได้ทำการแยกกิจกราทหารออกจากกิจการด้านพลเรือน และได้จัดตั้งกรมพระสุรัสวดีขึ้นมารับผิดชอบทำทะเบียนไพร่พล เพื่อช่วยให้สะดวกและรวดเร็วต่อการเรียกระดมพลทหาร หากเกิดศึกสงครามขึ้น โดยมีหลักเกณฑ์กำหนดให้ชายไทยทุกคนต้องเข้ามารายงานตัวเพื่อเป็นทหารปีละ 6 เดือน โดยในช่วงสมัยอยุธยานั้นมีสงครามที่สำคัญและเป็นจดจำกัน คือ “สงครามยุทธหัตถี” ซึ่งผู้ที่นำพาชาติไทยสู่ชัยชนะครั้งนั้นก็คือ พระนเรศวรมหาราช ในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2135 และนี่จึงเป็นที่ของวันกองทัพบก ในช่วงเวลาต่อมา
สมัยกรุงธนบุรี (พ.ศ. 2310 – 2325) ได้มีการปรับปรุงกิจการทหารหลายด้านด้วยกัน โดยเฉพาะในการจัดทำบัญชีไพร่พลให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น และสามารถตรวจสอบจำนวนกำลังพลที่แน่นอนแม่นยำ ทั้งยังช่วยให้สะดวกแก่การควบคุมบังคับบัญชา โดยในช่วงเวลาเกิดสงครามในยุคสมัยกรุงธนบุรีได้มีการหล่อปืนใหญ่ขึ้นใช้เอง และยังจัดหาอาวุธปืนจากต่างประเทศนำเข้ามาใช้ในกองทัพ
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. 2325 – ปัจจุบัน) เป็นช่วงที่ประวัติศาสตร์ที่มีการทำสงครามครั้งสำคัญ คือ สงครามเก่าทัพ ที่มีพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชนำพาชัยชนะข้าศึกที่มีจำนวนมากกว่ามาได้อย่างงดงาม นับตั้งแต่นั้นมาทางกองทัพบกก็ได้มีการพัฒนาตลอดเวลาจวบจนถึงปัจจุบัน
3.ภารกิจหลัก กองทัพบกไทย
พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2503 มาตรา 14 กำหนดอำนาจและหน้าที่กระทรวงกลาโหมและหน้าที่ของกองทัพบกไว้ว่า “กองทัพบกมีหน้าที่เตรียมกำลังทางบก และป้องกันราชอาณาจักร มีผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ”
4.สื่อในความควบคุมของ กองทัพบกไทย
สื่อในความควบคุมของกองทัพบก จะมีทั้งหมด ดังต่อไปนี้
- สถานีวิทยุกระจายเสียงกองทัพบก เครือข่ายทั่วประเทศ 127 สถานี
- สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5)
- สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ไทยทีวีโกลบอลเน็ตเวิร์ค (TGN)
- โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.)
- บริษัท อาร์ทีเอ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) (RTA Entertainment;ผู้ได้รับมอบหมายในการจัดการผังรายการและร่วมดำเนินกิจการจากสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก)
5.การจัดส่วนราชการ
กองทัพบก แบ่งส่วนราชการเป็น 7 ส่วนดังนี้
- ส่วนบัญชาการ
- ส่วนกำลังรบ
- ส่วนสนับสนุนการรบ
- ส่วนสนับสนุนการช่วยรบ
- ส่วนภูมิภาค
- ส่วนการศึกษา
- ส่วนช่วยพัฒนาประเทศ
6.ส่วนช่วยการพัฒนาประเทศ
- กองทัพภาคที่ 1 (ทภ.1)
- กองพลพัฒนาที่ 1 (พล.พัฒนา 1) ตั้งอยู่ที่ค่ายศรีสุริยวงศ์ ตำบลดอนตะโก อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี
- กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2)
- กองพลพัฒนาที่ 2 (พล.พัฒนา 2) ตั้งอยู่ที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ตำบลไชยมงคล อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
- กองทัพภาคที่ 3 (ทภ.3)
- กองพลพัฒนาที่ 3 (พล.พัฒนา 3) ตั้งอยู่ที่ค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ตำบลสมอแข อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
- กองทัพภาคที่ 4 (ทภ.4)
- กองพลพัฒนาที่ 4 (พล.พัฒนา 4) ตั้งอยู่ที่ค่ายรัตนพล ตำบลคลองหอยโข่ง อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา
7.ส่วนการศึกษา
- กรมยุทธศึกษาทหารบก (ยศ.ทบ.) ตั้งอยู่ถนนเทอดดำริ แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
- โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (รร.จปร.) ตั้งอยู่ถนนสุวรรณศร ตำบลพรหมณี อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
- วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า (วพม.) ตั้งอยู่ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
- หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) ตั้งอยู่ถนนเจริญกรุง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
- วิทยาลัยการทัพบก (วทบ.) ตั้งอยู่ถนนเทอดดำริ แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
- โรงเรียนเสนาธิการทหารบก (รร.สธ.ทบ.) ตั้งอยู่ถนนพระรามที่ 5 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
- โรงเรียนนายสิบทหารบก (รร.นส.ทบ.) ตั้งอยู่ค่ายโยธินศึกษามหามงกุฎ ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- ศูนย์การทหารราบ (ศร.) ตั้งอยู่ค่ายธนะรัชต์ ตำบลเขาน้อย อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- ศูนย์การทหารม้า (ศม.) ตั้งอยู่ค่ายอดิศร ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี
- ศูนย์การทหารปืนใหญ่ (ศป.) ตั้งอยู่ค่ายภูมิพล ตำบลเขาพระงาม อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี
- ศูนย์สงครามพิเศษ (ศสพ.) ตั้งอยู่ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จังหวัดลพบุรี
8.ส่วนภูมิภาค
- กองทัพภาคที่ 1 (ทภ.1)
- มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
- มณฑลทหารบกที่ 12 (มทบ.12) ค่ายจักรพงศ์ อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี
- มณฑลทหารบกที่ 13 (มทบ.13) ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี
- มณฑลทหารบกที่ 14 (มทบ.14) ค่ายนวมินทราชินี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี
- มณฑลทหารบกที่ 15 (มทบ.15) ค่ายรามราชนิเวศน์ อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี
- มณฑลทหารบกที่ 16 (มทบ.16) ค่ายภาณุรังษี อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี
- มณฑลทหารบกที่ 17 (มทบ.17) ค่ายสุรสีห์ อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
- มณฑลทหารบกที่ 18 (มทบ.18) ค่ายอดิศร อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี
- มณฑลทหารบกที่ 19 (มทบ.19) ค่ายสุรสิงหนาท อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
- มณฑลทหารบกที่ 110 (มทบ.110) ค่ายทองฑีฆายุ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
- กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2)
- มณฑลทหารบกที่ 21 (มทบ.21) ค่ายสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
- มณฑลทหารบกที่ 22 (มทบ.22) ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
- มณฑลทหารบกที่ 23 (มทบ.23) ค่ายศรีพัชรินทร อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
- มณฑลทหารบกที่ 24 (มทบ.24) ค่ายประจักษ์ศิลปาคม อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
- มณฑลทหารบกที่ 25 (มทบ.25) ค่ายวีรวัฒน์โยธิน อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
- มณฑลทหารบกที่ 26 (มทบ.26) ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
- มณฑลทหารบกที่ 27 (มทบ.27) ค่ายประเสริฐสงคราม อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
- มณฑลทหารบกที่ 28 (มทบ.28) ค่ายศรีสองรัก อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย
- มณฑลทหารบกที่ 29 (มทบ.29) ค่ายกฤษณ์สีวะรา อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
- มณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) ค่ายพระยอดเมืองขวาง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม
- กองทัพภาคที่ 3 (ทภ.3)
- มณฑลทหารบกที่ 31 (มทบ.31) ค่ายจิรประวัติ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์
- มณฑลทหารบกที่ 32 (มทบ.32) ค่ายสุรศักดิ์มนตรี อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง
- มณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ.33) ค่ายกาวิละ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
- มณฑลทหารบกที่ 34 (มทบ.34) ค่ายขุนเจืองธรรมิกราช อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา
- มณฑลทหารบกที่ 35 (มทบ.35) ค่ายพิชัยดาบหัก อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์
- มณฑลทหารบกที่ 36 (มทบ.36) ค่ายพ่อขุนผาเมือง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์
- มณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37) ค่ายเม็งรายมหาราช อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
- มณฑลทหารบกที่ 38 (มทบ.38) ค่ายสุริยพงษ์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
- มณฑลทหารบกที่ 39 (มทบ.39) ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
- มณฑลทหารบกที่ 310 (มทบ.310) ค่ายวชิรปราการ อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก
กองทัพภาคที่ 4 (ทภ.4) - มณฑลทหารบกที่ 41 (มทบ.41) ค่ายวชิราวุธ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช
- มณฑลทหารบกที่ 42 (มทบ.42) ค่ายเสนาณรงค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
- มณฑลทหารบกที่ 43 (มทบ.43) ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
- มณฑลทหารบกที่ 44 (มทบ.44) ค่ายเขตอุดมศักดิ์ อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร
- มณฑลทหารบกที่ 45 (มทบ.45) ค่ายวิภาวดีรังสิต อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- มณฑลทหารบกที่ 46 (มทบ.46) ค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
9.ส่วนสนับสนุนการรบ
- กองพลทหารปืนใหญ่ (พล.ป.) ดูแลพื้นที่ทั่วประเทศไทย มีที่ตั้งอยู่ที่ค่ายสิริกิติ์ อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี
- กองพลทหารช่าง (พล.ช) ดูแลพื้นที่ทั่วประเทศไทย มีที่ตั้งอยู่ที่ค่ายบุรฉัตร อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี
- หน่วยข่าวกรองทางทหาร (ขกท.)
- กองบัญชาการช่วยรบที่ 1 (บชร.1) ดูแลด้านการส่งกำลังบำรุงและซ่อมบำรุง พื้นที่ภาคกลาง มีที่ตั้งอยู่ที่ ค่ายพนัสบดีศรีอุทัย ตำบลเกาะจันทร์ อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี
- กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 (บชร.2) ดูแลด้านการส่งกำลังบำรุงและซ่อมบำรุง พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีที่ตั้งอยู่ที่ ค่ายสุรนารี ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
- กองบัญชาการช่วยรบที่ 3 (บชร.3) ดูแลด้านการส่งกำลังบำรุงและซ่อมบำรุง พื้นที่ภาคเหนือ มีที่ตั้งอยู่ที่ ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ ตำบลอรัญญิก อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
- กองบัญชาการช่วยรบที่ 4 (บชร.4) ดูแลด้านการส่งกำลังบำรุงและซ่อมบำรุง พื้นที่ภาคใต้ มีที่ตั้งอยู่ที่ ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร ตำบลกะปาง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
10.ส่วนกำลังรบ
- กองทัพภาคที่ 1 (ทภ.1) รับผิดชอบพื้นที่ภาคกลาง (บางส่วน) ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก ตั้งกองบัญชาการที่เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร หน่วยรบที่สำคัญ คือ
- กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.) ตั้งอยู่ที่เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
- กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง (พล.ร.2 รอ.) ตั้งอยู่ที่ค่ายพรหมโยธี อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี
- กองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ตั้งอยู่ที่ค่ายสุรสีห์ ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
- กองพลทหารราบที่ 11 (พล.ร.11) ตั้งอยู่ที่ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า ตำบลคลองนา อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา
- กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (พล.ม.2 รอ.) ตั้งอยู่ที่เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
- กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) รับผิดชอบพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด ตั้งกองบัญชาการที่ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา หน่วยรบที่สำคัญ คือ
- กองพลทหารราบที่ 3 (พล.ร.3) ตั้งอยู่ที่ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา
- กองพลทหารราบที่ 6 (พล.ร.6) ตั้งอยู่ที่ค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ตำบลโพธิ์สัย อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด
- กองพลทหารม้าที่ 3 (พล.ม.3) ตั้งอยู่ที่ค่ายเปรมติณสูลานนท์ ตำบลบัวเงิน อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น
- กองทัพภาคที่ 3 (ทภ.3) รับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือทั้งหมด และภาคกลาง (บางส่วน) ตั้งกองบัญชาการที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จังหวัดพิษณุโลก หน่วยรบที่สำคัญ คือ
- กองพลทหารราบที่ 4 (พล.ร.4) ตั้งอยู่ที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตำบลบ้านคลอง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
- กองพลทหารราบที่ 7 (พล.ร.7) ตั้งอยู่ที่ค่ายเจ้าขุนเณร ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
- กองพลทหารม้าที่ 1 (พล.ม.1) ตั้งอยู่ที่ค่ายพ่อขุนผาเมือง ตำบลสะเดียง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์
- กองทัพภาคที่ 4 (ทภ.4) รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด ตั้งกองบัญชาการที่ค่ายวชิราวุธ จังหวัดนครศรีธรรมราช และมีกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ตั้งอยู่ที่ค่ายสิรินธร จังหวัดปัตตานี เพื่อดูแลปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะ หน่วยรบที่สำคัญ คือ
- กองพลทหารราบที่ 5 (พล.ร.5) ตั้งอยู่ที่ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร ตำบลกะปาง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
- กองพลทหารราบที่ 15 (พล.ร.15) เป็นกองพลทหารราบชายแดนใต้ ตั้งอยู่ที่ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
- หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) ตั้งกองบัญชาการอยู่ที่ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จังหวัดลพบุรี รับผิดชอบภารกิจเกี่ยวกับสงครามพิเศษ หน่วยรบที่สำคัญ คือ
- กองพลรบพิเศษที่ 1 (พล.รพศ. 1) มีที่ตั้งที่ค่ายเอราวัณ ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี
- หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (นปอ.) ตั้งอยู่กองบัญชาการอยู่ที่เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร มีภารกิจเกี่ยวกับการป้องกันภัยทางอากาศ การต่อต้านอากาศยาน หน่วยรบที่สำคัญ คือ
- กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (พล.ปตอ.) ตั้งอยู่ที่เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
- ศูนย์ต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก (ศปภอ.ทบ.) ตั้งอยู่ที่เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร มีหน้าที่สำคัญในด้านการเฝ้าตรวจทางอากาศ ค้นหาอากาศยาน พิสูจน์ฝ่าย แจ้งเตือน และควบคุมการปฏิบัติ
11.ส่วนบัญชาการ
- ส่วนบัญชาการ (ฝ่ายเสนาธิการ)
- สำนักงานเลขานุการกองทัพบก (สลก.ทบ.) ถนนราชดำเนินนอก แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
- กรมกำลังพลทหารบก (กพ.ทบ.)
- กรมข่าวทหารบก (ขว.ทบ.)
- กรมยุทธการทหารบก (ยก.ทบ.)
- กรมส่งกำลังบำรุงทหารบก (กบ.ทบ.)
- กรมกิจการพลเรือนทหารบก (กร.ทบ.) ถนนราชดำเนินนอก แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
- สำนักงานปลัดบัญชีกองทัพบก (สปช.ทบ.) ถนนราชดำเนินนอก แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
- ส่วนบัญชาการ (ฝ่ายกิจการพิเศษ)
- กรมสารบรรณทหารบก (สบ.ทบ.)
- กรมการเงินทหารบก (กง.ทบ.) ถนนราชดำเนินนอก แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
- กรมการสารวัตรทหารบก (สห.ทบ.)
- กรมจเรทหารบก (จบ.) ถนนราชดำเนินนอก แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
- กรมสวัสดิการทหารบก (สก.ทบ.) ถนนเทอดดำริ แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
- กรมดุริยางค์ทหารบก (ดย.ทบ.) ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
- หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) ถนนเจริญกรุง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
- สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพบก (สวพ.ทบ.)
- สำนักงานตรวจสอบภายในทหารบก (สตน.ทบ.) ถนนราชวิถี แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
- สำนักงานพระธรรมนูญทหารบก (สธน.ทบ.) ถนนราชดำเนินนอก แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
- ศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก (ศซบ.ทบ.) ถนนราชดำเนินนอก แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
- ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก (ศบภ.ทบ.)
- ส่วนบัญชาการ (ฝ่ายยุทธบริการ)
- กรมการทหารช่าง (กช.) ค่ายภาณุรังษี ตำบลพงสวาย อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี
- กรมสรรพาวุธทหารบก (สพ.ทบ.) ถนนทหาร แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
- กรมแพทย์ทหารบก (พบ.) ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
- กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) ถนนประดิพัทธ์ แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
- กรมพลาธิการทหารบก (พธ.ทบ.) ถนนติวานนท์ ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
- กรมยุทธโยธาทหารบก (ยย.ทบ.) ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
- กรมการสัตว์ทหารบก (กส.ทบ.) ค่ายทองฑีฆายุ ตำบลธรรมศาลา อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
- กรมการทหารสื่อสาร (สส.) ถนนพระรามที่ 5 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
- กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก (วศ.ทบ.) ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
12.เหล่ารบ
เหล่ารบ เป็นเหล่าหลักที่ใช้ในการรบ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่หลักในสนามรบจะประกอบด้วย
- ทหารราบ (ร.) เป็นกำลังรบหลักของกองทัพบกไทย มีกำลังพลมากที่สุด มีหน้าที่เข้ายึดครองและรักษาพื้นที่ ทหารราบมาตรฐาน ทหารราบเบา ทหารราบยานเกราะ
- ทหารม้า (ม.) แบ่งออกเป็นสามแบบคือ ทหารม้าลาดตระเวน ทหารม้าบรรทุกยานเกราะ ยานสายพาน หรือยานหุ้มเกราะเป็นพาหนะในการรบ ทหารม้ารถถัง ใช้รถถังเป็นอาวุธหลักในการปฏิบัติการรบ
13.เหล่าสนับสนุนการรบ
เหล่าสนับสนุนการรบ เป็นฝ่ายสนับสนุนการรบ โดยมากมักปฏิบัติงานควบคู่กับหน่วยรบในสนามรบจะประกอบด้วย
- ทหารปืนใหญ่ (ป.) ใช้ปืนใหญ่ ในการยิงสนับสนุนให้กับหน่วยกำลังรบ
- ทหารช่าง (ช.) เป็นฝ่ายช่วยเหลือทางเทคนิคด้านงานช่าง ก่อสร้าง ซ่อม หรือทำลาย สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ
- ทหารสื่อสาร (ส.) เป็นฝ่ายช่วยเหลือทางเทคนิคด้านงานสื่อสาร และด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ
- ทหารการข่าว (ขว.) ข่าวกรอง
14.เหล่าช่วยรบ
เหล่าช่วยรบ เป็นฝ่ายส่งกำลังหรือสิ่งอุปกรณ์ช่วยเหลือการรบ โดยมากปฏิบัติงานแนวหลังในสนามรบจะประกอบด้วย
- ทหารสรรพาวุธ (สพ.) เป็นฝ่ายสนับสนุนสิ่งอุปกรณ์จำพวก อาวุธ กระสุน วัตถุระเบิด ตลอดจนยานพาหนะในการรบ
- ทหารพลาธิการ (พธ.) เป็นฝ่ายสนับสนุนสิ่งอุปกรณ์จำพวก อาหาร เครื่องแต่งกาย เชื้อเพลิง ยุทธภัณฑ์ส่วนบุคคล
- ทหารแพทย์ (พ.) เป็นฝ่ายสนับสนุนสิ่งอุปกรณ์ในกลุ่มเวชภัณฑ์ และสิ่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงเป็นฝ่ายรักษาพยาบาลให้กับทหารและครอบครัวทหาร
- ทหารขนส่ง (ขส.) เป็นฝ่ายอำนวยความสะดวกเรื่องการขนส่งกำลังพล และการเคลื่อนย้ายสิ่งอุปกรณ์
15.เหล่าสนับสนุนการช่วยรบ
นอกจากนี้ยังมีหน่วยอื่น ๆ ที่มิได้เป็นหน่วยที่เกี่ยวข้องกับการรบโดยตรงจะประกอบด้วย
- ทหารสารบรรณ (สบ.) มีหน้าที่ดำเนินการด้านธุรการ เอกสาร ทะเบียนประวัติ และงานสัสดี
- ทหารการเงิน (กง.) ปฏิบัติงานด้านการเงิน บัญชี งบประมาณ และการเบิกจ่ายงบประมาณ
- ทหารพระธรรมนูญ (ธน.) ดำเนินการด้านกฎหมาย การศาลทหาร
- ทหารแผนที่ (ผท.) มีหน้าที่สำรวจและจัดทำ แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศ (ขึ้นการบังคับบัญชากับ กองบัญชาการกองทัพไทย)
- ทหารการสัตว์ (กส.) มีหน้าที่ดูแลสัตว์ในราชการกองทัพ
- ทหารดุริยางค์ (ดย.) มีหน้าที่ให้ความบันเทิง สันทนาการ
- ทหารสารวัตร (สห.) มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ดูแลระเบียบวินัยของทหาร การเชลย
16.อาวุธประจำกาย และอาวุธยิงสนับสนุน กองทัพบกไทย
อาวุธประจำกาย และอาวุธยิงสนับสนุน กองทัพบกจะมีดังต่อไปนี้
- Small Arm
- M4 Carbine
- FN SCAR – L
- TAVOR TAR-21
- Galil Ace N-23
- M16A2
- M1911A1
- BERETTA 92FS
- Suooisrt weapons
- NEGEV Light Machine Gun
- FN MINIMI
- FN MAG 58
- M60 Machine Gun
- M2 Browning machine gun
- CIS 40 AGL
- CARL-GUSTAF M3
- M121A1
- M121A3 COMMANDO
- M29
- M132A1
17.ปืนใหญ่ และระบบการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบกไทย
ปืนใหญ่ และระบบการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบกจะมีดังต่อไปนี้
- Artillery
- GHN 45A1 – 155mm
- ATMG 155mm / 52caliber
- M109A5
- SR-4
- M119-105 mm
- CAESAR 155mm
- M-71Soltam 155MM
- Air Defense
- BOFOS L70
- M42A1
- M163A1
- IGLA-S
- STAR STREAK
- VI-Mica
- Oerlikon GDF / Sky Guard System
18.ยานพาหนะ กองทัพบกไทย
ยานพาหนะ กองทัพบกจะมีดังต่อไปนี้
- Vehicles
- M1126 Stryker
- VN1
- BTR-3E1
- VT4
- T-84 OPLOT
- M60A3
- M1038 Humvee
- Mercedes-Benz UNIMOG
19.อากาศยาน กองทัพบกไทย
อากาศยาน กองทัพบก
- Aircrafts
- AH-1f Cobra
- AW149
- AW139
- UH-72 Lakota
- Mi-17v5
- AS550 C3 Fennec
- UH60L Black Hank
- Bell 212
- Bell 206 JET-RANGER
- ENSTROM 480B
- EC145 T2
20.ติดต่อ กองทัพบกไทย
กองบัญชาการกองทัพบก ตั้งอยู่ที่ ถนนราชดำเนินนอก เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
- เบอร์โทร 0-2241-0404
- แฟกซ์. 0-2297-8063
- Email : [email protected]
- Website : www.rta.mi.th